"จิรายุ"ปลื้ม ปชช.ให้คะแนนอภิปรายงบฝ่ายค้าน A+ รัฐบาลติด F

2020-07-05 12:59:51

"จิรายุ"ปลื้ม ปชช.ให้คะแนนอภิปรายงบฝ่ายค้าน  A+ รัฐบาลติด F

Advertisement

"จิรายุ"สุดปลื้ม ปชช.ให้คะแนนฝ่ายค้านอภิปรายงบ  A+ ด้านรัฐบาลติด F เหตุทำงบแบบไม่ตรงปก เอื้อพรรคร่วมรัฐบาล 

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์  ส.ส.กทม. รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.)  กล่าวถึงการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 วาระแรกที่ผ่านมาว่า การชี้แจงของ ครม.ตลอด 3 วันไม่สามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้เลย เป็นการจัดทำงบประมาณแบบไม่ตรงปก เนื้อในมีลักษณะคล้ายกับแผนงบปี 63 แต่อวดสรรพคุณว่าเป็นยาผีบอก ดีแน่ทั้งที่ปีหน้าปัจจัยลบบานตะเกียง ที่สำคัญสภาพปัญหาขณะนี้และปีหน้าไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง ทำงบปี 64 แบบนี้มีโอกาสสูงที่จะนำพาประเทศไปสู่กลียุค ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและความเป็นความตายของประเทศ การชี้แจงของ ครม.ในแต่ละประเด็นยิ่งทำให้เห็นว่าเป็นการรักษากระทรวงของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้นไม่ได้สร้างความมั่นใจใดๆให้กับประชาชนนอกจากผลประโยชน์ของแต่ละพรรคที่มีรัฐมนตรีเท่านั้น เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อกันเพื่อประคองรัฐนาวาที่เจอพายุทอนาโด

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ฝ่ายค้านทนฟังชี้แจงมา 3 วัน ก็ยิ่งไม่เห็นอนาคตของประเทศหลังสถานการณ์โควิดจึงนำไปสู่การลงมติ "ไม่เห็นชอบ" เป็นครั้งแรก ซึ่งวาระแรกส่วนใหญ่สมาชิกรัฐสภาที่ไม่เห็นด้วยหรืออยู่ในฝ่ายค้านก็จะลงมติด้วยการโหวต "งดออกเสียง" แต่ครั้งนี้ ถือว่ารัฐบาลชี้แจงได้ไม่เอาอ่าวจริงๆ

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ขอขอบคุณแทน ส ส.ซีกฝ่ายค้านทุกคนที่หลังจากอภิปรายมีการสำรวจความคิดเห็นหลายสำนัก และในโซเชียลมีเดีย ต่างให้คะแนนพรรคร่วมฝ่ายค้านในการทำหน้าที่อภิปรายเพื่อตักเตือนรัฐบาลที่ลุอำนาจ โดยให้ข้อมูลและยับยั้งอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการจัดทำงบประมาณแบบไม่ดูตาม้าตาเรือถึง A+ และให้คะแนนรัฐบาล ติด F ชนิดต้องไล่ออกสถานเดียว โดยเฉพาะประเด็นทำงบที่ไม่สอดรับกับปัญหาสถานการณ์โควิดที่ประเทศจะได้รับสึนามิทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน แต่ยังใช้เงินไปในการซื้ออาวุธ และทำถนน อีกทั้งยังจัดสรรงบประมาณ แบบเอื้อพรรคของพวก ในลักษณะประคองรัฐนาวา ในพรรคร่วมรัฐบาล โดยไม่สนใจว่าประเทศชาติจะเป็นอย่างไรหลังสถานการณ์โควิด นอกจากนี้การกู้เงินจำนวนมากที่มากกว่านายกฯรวมกัน 28 คน ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ไม่มีแผนหรือนโยบายที่ชัดเจนว่าจะหาเงินเข้าประเทศได้อย่างไรและจะใช้หนี้กว่า 100 ปีได้แบบไหน เห็นมีแต่แจกเงิน และไม่เห็นมีอะไรที่ประชาชนฟังแล้วจะมั่นใจได้ว่าปีหน้าหรือปีต่อๆ ไปประเทศไทยจะไม่ล้มละลายเพราะสุดท้ายอาจต้องเกิดภาวะดุลข้าราชการเหมือนในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ประเทศไม่มีเงินเดือนจะจ่าย ต้องให้ข้าราชการออกเป็นจำนวนมาก