"สุรเชษฐ์" อัดงบปี 64 ซุกซ่อนโครงการ มือใครยาวสาวได้สาวเอา

2020-07-03 23:00:07

"สุรเชษฐ์" อัดงบปี 64 ซุกซ่อนโครงการ มือใครยาวสาวได้สาวเอา

Advertisement

"สุรเชษฐ์" อัดงบปี 64 ซุกซ่อนโครงการ น่ากลัวมือใครยาวสาวได้สาวเอา  ชี้อยากเห็นประเทศไทย ที่ไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่รัฐสภา นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 มีอยู่ด้วยกัน 3.3 ล้านล้านบาท เป็นรายจ่ายประจำ 76.5 เปอร์เซ็นต์ รายจ่ายลงทุน 20.5 เปอร์เซ็นต์ รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 3 เปอร์เซ็นต์  สิ่งที่เราควรทำนั้นควรลดรายจ่ายประจำและควรเพิ่มรายจ่ายลงทุนตอนนี้เราต้องถามก่อนว่า ตอนนี้ลงทุนจริงไหม หรือเราจะลงทุนแบบไหนดี  เหนือสิ่งอื่นใดแล้วต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่ารายจ่ายลงทุนคืออะไรและงบลงทุนคืออะไร คำว่างบลงทุนจะมีรายการชัดเจนว่าจะเอางบต่างๆไปทำอะไรเท่าไหร่อย่างไร ซึ่งในส่วนนี้มีอยู่ 15.6 เปอร์เซ็นต์ หรือ 5.13 แสนล้านบาท ที่ตลกก็คือ ในส่วนของรายจ่ายลงทุน คืองบลงทุนบวกกับอะไรสักอย่างนึง ซึ่งไม่มีรายการมาแสดงรายละเอียดใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเพิ่มมาจากไหนไม่รู้แต่ให้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งรายจ่ายลงทุน ต้องมากกว่าหรือเท่ากับ 20 เปอร์เซ็นต์  ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 ซึ่งตามรายละเอียดในเอกสารมีเพียง 15.6 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่งอกขึ้นมานั้นไม่มีรายการมาแสดงอยู่เลย


นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ในเอกสารงบประมาณไม่มีรายละเอียดส่วนต่างระหว่างรายจ่ายลงทุนกับงบลงทุนว่าประกอบด้วยโครงการใดบ้าง หรือเงินลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศประกอบด้วยโครงการใดบ้าง นอกจากนั้นยังปกปิดข้อมูล ให้ดูแต่เพียงชื่อโครงการ ไม่มีรายละเอียดใดๆข้างใน อีกทั้งในบางโครงการมีการซ่อนแม้กระทั่งชื่อ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การลงทุนภาครัฐมีปัญหา ไม่ก่อให้เกิดการพัฒนาประเทศเท่าที่ควร เงินมีแต่ใช้อย่างไม่ค่อยฉลาด จะไปซื้อเรือดำน้ำ ในช่วงเวลาแบบนี้ แถมยังซื้อแบบรุ่นปักเลนอีกด้วย อีกทั้งยังมีความซ้ำซ้อนระหว่างโครงการ เช่น รถไฟทางคู่รถไฟความเร็วสูง แล้วมอเตอร์เวย์ ในเส้นทางเดียวกัน และนอกจากนี้ระบบที่น่ากลัวก็คือระบบที่มือใครยาวสาวได้สาวเอา ทั้งในระดับหน่วยงานและระดับพื้นที่ หากทุกหน่วยงานบอกว่าตัวเองสำคัญ ก็จะไม่มีหน่วยงานใดสำคัญเลยสุดท้ายแล้วเราก็ต้องตัดงบประมาณแต่ตัดงบประมาณแบบมีเหตุมีผลไม่ใช่ปล่อยให้เป็นการใช้งบประมาณแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอาแบบที่ผ่านมา หรือนายกต้องการเอาใจใครก็ให้งบประมาณไปแบบนั้นไม่ถูกต้อง

"นายกฯพูดไปเรื่อย เราก็อยากเห็นการบูรณาการอย่างที่ท่านพูด มันเหมือนจะเป็นคำตอบ แต่สิ่งที่ท่านทำอยู่มันไม่ใช่ ซึ่งแผนบูรณาการนั้น มีทั้งปัญหาเชิงปฏิบัติและปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งนโยบายเชิงปฏิบัติท่านพูดแต่นโยบายดาวล้านดวงคือมีแต่คำดูเต็มไปหมด ทุกอย่างฟังดูดีลื่นหู แต่ไม่ได้มีทิศทาง เขียนฟุ้งไปเรื่อย งบประมาณไม่ได้สอดคล้องกับเป้าหมายใดๆทั้งสิ้น และที่สำคัญก็คือคนที่นั่งอนุมัติโครงการ ไม่ได้สนใจเรื่องความคุ้มค่า เอาแต่จะรวมกลุ่มๆหาผลประโยชน์ หาหัวคิว ไม่ได้รู้เรื่อง กับโครงการนั้นๆจะมีวันนี้เพราะพี่ให้ ให้ให้นี้คือให้นั่งจัดสรรผลประโยชน์เพียงเท่านั้น" นายสุรเชษฐ์ กล่าว 

นายสุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ข้อเสนอแผนบูรณาการแบบพรรคก้าวไกล เราเสนอโครงสร้างใหม่ที่รองรับ one to many ก็คือการมองแผนบูรณาการ ต้องมองแยกมาอีก Layer หนึ่ง ก็คือกำหนดโครงการหรืองบโครงการที่อยู่ถูกที่ถูกทาง เปลี่ยนการมองปัญหาจากสมการชั้นเดียว เป็น Multi layer คือการเพิ่มมิติการวิเคราะห์ ซึ่งโครงการสร้างแบบก้าวไกล ยืดหยุ่นกว่าแก้ปัญหาได้เพิ่มลำดับชั้นในการวิเคราะห์ได้ด้วย เปลี่ยนจากกรุงเทพฯคือประเทศไทย ไปเป็นการกระจายอำนาจและเม็ดเงินสู่ท้องถิ่น เพิ่มอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ตัดสินใจในการใช้งบประมาณเอง ทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่เราอยากเห็นก็คือ การลดงบกระทรวง จากส่วนกลางไปเพิ่มงบท้องถิ่นให้มากขึ้น การลดอำนาจการตัดสินใจโดยส่วนกลางโดยที่เป็นเพิ่มอำนาจการตัดสินใจให้ท้องถิ่นมากขึ้น อยากเห็นการสร้างเมืองไม่ใช่สร้างถนนแล้วปล่อยให้เมืองโตตามยถากรรม เราอยากจะเห็นประเทศไทยไม่ใช่แค่กรุงเทพ