"พิพัฒน์"แถลงมาตรการ "เที่ยวปันสุข" ก.ค. – ต.ค.

2020-07-03 19:15:28

"พิพัฒน์"แถลงมาตรการ "เที่ยวปันสุข" ก.ค. – ต.ค.

Advertisement

รมว.ท่องเที่ยวฯแถลง มาตรการ "เที่ยวปันสุข" ผนึกกำลังฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศ  ก.ค. – ต.ค.2563


เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการแถลงข่าว มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคมภาคการท่องเที่ยว เที่ยวปันสุข ประกอบด้วยแพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกัน และกำลังใจ พร้อมด้วยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และนายพยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงข่าว แพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกัน ทั้งนี้รัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายโรงแรม ที่พักให้ร้อยละ 40 รับ E-Voucher อีกคืนละ 600 บาท ส่วนสายการบินเมื่อนักท่องเที่ยวชำระค่าบัตรโดยสารแล้ว รัฐบาลคืนเงินให้กลับไปร้อยละ 40 แต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง พร้อมทั้งมอบแพ็กเกจกำลังใจ ขอบคุณอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้เที่ยวในประเทศ 2 วัน 1 คืน คนละไม่เกิน 2,000 บาท


นายพิพัฒน์  กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคมภาคการท่องเที่ยว “เที่ยวปันสุข” ประกอบด้วย แพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกัน กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท และแพ็กเกจกำลังใจ กรอบวงเงิน 2,400 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 22,400 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค. – ต.ค.2563 ดำเนินการโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. ร่วมกับ กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) แพ็กเกจเราเที่ยวด้วยกัน เป็นการฟื้นฟูภาคธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยการสนับสนุนค่าที่พัก และค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน รัฐบาลจะสนับสนุนค่าที่พักในลักษณะร่วมจ่าย ในอัตราร้อยละ 40 ของค่าที่พัก แต่ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อห้องต่อคืน ในการเข้าพักในโรงแรมที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม และโฮมสเตย์ ที่ได้ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจะได้รับ E-Voucher คืนละ 600 บาท ใช้จ่ายเป็นค่าอาหาร และค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในลักษณะร่วมจ่ายเช่นกัน ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนการใช้จ่ายในอัตราร้อยละ 40


นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของสายการบิน รัฐบาลจะสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินบางส่วน ในลักษณะการจ่ายคืน สำหรับผู้จองที่พักที่เดินทางโดยสายการบิน โดยผู้จองที่พักจะต้องดำเนินการจอง และชำระค่าบัตรโดยสารเครื่องบินเต็มจำนวนผ่านทางเว็บไซต์ของสายการบิน และรัฐบาลจะจ่ายเงินคืนในอัตราร้อยละ 40 ของค่าบัตรโดยสาร แต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง เข้าสู่แอปพลิเคชันเป๋าตังของผู้จองที่พัก ภายหลังการเช็คเอาท์ สามารถนำไปใช้จ่ายหรือถอนเงินสดได้โดยไม่มีการกำหนดระยะเวลา

นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า แพ็กเกจกำลังใจ เป็นการขอบคุณ อสม.  อสส. และ รพ.สต. ซึ่งเป็นผู้ที่เสียสละในการทำงานอย่างหนัก และเป็นผู้ที่มีส่วนช่วยให้ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไม่เกินคนละ 2,000 บาท สำหรับการเดินทาง 2 วัน 1 คืน โดยทั้งสองแพ็กเกจสามารถใช้สิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.เที่ยวปันสุข.ไทย และ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ผู้ประกอบการโรงแรม ที่พักสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่บัดนี้ สำหรับประชาชนทั่วไปจะเปิดให้ลงทะเบียนใน วันที่ 15 ก.ค. 2563 ส่วนแพ็กเกจกำลังใจ จะเปิดให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวลงทะเบียนผ่าน www.เที่ยวปันสุข.ไทยในวันที่ 10 ก.ก. 2563 สำหรับ อสม. อสส. และ รพ.สต. สามารถเข้าไปลงทะเบียนในวันที่ 25 ก.ค.2563 และเดินทางท่องเที่ยวได้ในวันที่ 30 ก.ค.2563 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการบริโภคให้เติบโต และทำให้เกิดการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ได้แก่ ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่อไป


นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารพร้อมสนับสนุนมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือเพิ่มสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศทำให้เกิดรายได้หมุนเวียนลงไปในระดับฐานราก ที่ผ่านมาธนาคารร่วมดำเนินโครงการ และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศมาโดยตลอดเช่นกัน โดยในครั้งนี้ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “กำลังใจ” ธนาคารได้พัฒนาแพลตฟอร์มการลงทะเบียน และการชำระเงินแบบดิจิทัลผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างประชาชนกับผู้ประกอบการเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน




นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้กำหนดคุณสมบัติของประชาชนที่จะลงทะเบียนรับสิทธิ โดยต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีอายุ 20 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน มีบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิท่องเที่ยว ที่พัก และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ โดยขอย้ำว่าต้องใช้สิทธิในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของตนเองิ ซึ่งการลงทะเบียนขอแนะนำให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เป๋าตัง มาเตรียมไว้ ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เชื่อมั่นว่าจะช่วยเร่งการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศให้กลับมาเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป