"กรมศิลป์ฯ" อัดยับ "ช่องส่องผี" บิดเบือนประวัติศาสตร์ ยันไม่เคยอนุญาตให้ถ่ายทำในโบราณสถาน
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงกรณีที่รายการช่องส่องผี ที่ตระเวนเล่าเรื่องลี้ลับโดยเข้าไปถ่ายทำรายการในโบราณสถานในช่วงกลางคืน แต่กลับสร้างความเชื่อโดยบิดเบือนประวัติศาสตร์ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม ว่า ก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการผลิตรายการช่องส่องผี ได้ทำหนังสือขออนุญาตถ่ายทำรายการโบราณสถานหลายแห่งมายังกรมศิลปากร ทั้งพระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ รวมถึงวางแผนหล่อพระพุทธองค์หลวงพ่อเชียงแสน ที่วัดกระซ้าย (ร้าง) ซึ่งเป็นโบราณสถาน โดยกรมศิลปากร ส่งหนังสือแจ้งกลับไม่อนุญาตให้ถ่ายทำรายการดังกล่าว เนื่องจากอาจทำให้โบราณสถานเสียหายได้ โดยหากฝ่าฝืนต้องระวางโทษตามมาตรา 32 แห่ง พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504
นายประทีป กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่า รายการช่องส่องผี เข้ามาถ่ายทำรายการในโบราณสถานแล้วนำไปเผยแพร่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ในส่วนนี้กรมศิลปากร จึงส่งหนังสือแจ้งระเบียบการถ่ายทำสารคดีในเขตโบราณสถาน พ.ศ.2547 และ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2548 ไปให้ผู้อำนวยการผลิตรายการช่องส่องผี รับทราบ เพราะการถ่ายทำจะต้องส่งบทบรรยายเรื่อง ส่งสคริป หรือบทภาพยนตร์แบบฉาก และเครื่องแต่งกาย จำนวนนักแสดง และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาก่อนอนุญาต
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวอีกว่า การละเมิดเข้าไปโบราณสถานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษตามกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยกรมศิลปากร มีแนวทางที่ชัดเจน คือ จะไม่ยอมให้ถ่ายทำรายการที่สร้างความเสื่อมเสียให้โบราณสถานอีก และจะไม่ยอมให้ใช้พื้นที่โบราณสถานในการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้องต่อสังคม สร้างความเชื่อผิดๆ โดยเฉพาะการบิดเบือนประวัติศาสตร์ รวมถึงแอบอ้างถึงบูรพกษัตริย์ ส่วนความเชื่อเรื่องผีเป็นสิทธิของประชาชน ทั้งนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าสอดส่องดูแลทุกพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อปิดช่องโหว่ในส่วนของโบราณสถานที่ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำ โดยหากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันอีก ก็จะดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนอย่างแน่นอน