เจ้าหน้าที่ออสเตรเลีย เริ่มทำการสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ระลอกใหม่ในรัฐวิกตอเรีย มีสาเหตุมาจากพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรมที่ติดเชื้อบางคนไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงว่าด้วยการปฏิบัติตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่กักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างปรเทศ ซึ่งรวมทั้งมีรายงานว่า พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรมแอบไปมีความสัมพันธ์ทางเพศกับแขกภายใต้มาตรการล็อคดาวน์ดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีแดนเนียล แอนดรูว์ส ของรัฐวิตอเรีย ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า รัฐบาลของรัฐจะออกเงิน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนการสอบสวนครั้งนี้ เขากล่าวก่อนหน้านี้ว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมและต้นเดือนมิถุนายน อาจมีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการละเมิดมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสในโครงการกักตัวที่โรงแรมดังกล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดเอาโรงแรมหลายแห่งทั่วประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมผู้เดินทางเข้าประเทศที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส โดยใครก็ตามที่เดินทางเข้าออสเตรเลีย ต้องปฏิบัติตามคำสั่งกักตัวนาน 14 วันตามสถานที่ที่ทางรัฐบาลจัดไว้ให้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้ดูแล
มีเพียงพลเมืองชาวออสเตรเลียและผู้อยู่อาศัยถาวรเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ ด้วยข้อยกเว้นบางอย่าง
สถานีโทรทัศน์เอบีซี ของออสเตรเลีย รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวม 31 คนที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมสแตมฟอร์ด พลาซา ในเมลเบิร์น ขณะที่อีกบางส่วนเกี่ยวกับกับโรงแรงสวอนสตัน เมืองริดเจส
“เป็นสิ่งที่ชัดเจนอย่างมากว่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง และเราต้องรู้ความจริงให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” แอนดรูว์ส ระบุในแถลงการณ์
ตามที่ “9 นิวส์” เครือข่ายของซีเอ็นเอ็น รายงาน บอกด้วยว่า มีข้อกล่าวหาว่า พนักงานบางคนละเมิดมาตรการกักตัวด้วยการแอบไปมีเพศสัมพันธ์กับแขกที่กักตัวในโรงแรม และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก็ขาดการอบรม ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งที่ติดเชื้อไวรัสด้วย กล่าวในรายกาย “Today show” ของเอบีซี ว่า เขาได้รับการอบรมเพียง 5 นาทีก่อนเริ่มงาน
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ว่า พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรมไปหลับนอนกับแขกในสถานที่กักตัว นายเกรก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของออสเตรเลีย กล่าวว่า หากข้อกล่าวหาเหล่านี้เป็นจริง นั่นจะเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง เราจะให้เจ้าหน้าที่ของรัฐวิกตอเรียลงโทษพวกเขาอย่างหนัก หากใคร หรือบริษัทใดมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
ทั้งนี้ รัฐวิกตอเรียเผชิญหน้ากับการระบาดใหม่ของไวรัสโควิด-19 ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้มาตรการล็อคดาวน์ครั้งใหม่ในหลายพื้นที่ของเมลเบิร์น โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีรายงานว่า รัฐวิกตอเรียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 73 คน รวมยอดสะสมทั้งรัฐ 370 คน
นายแอนดรูว์ส กล่าวว่า ไม่มีผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศคนใด ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าเมลเบิร์นเป็นเวลา 2 สัปดาห์ข้างหน้า ขณะโครงการกักตัวก็กลับมาเริ่มต้นใหม่อีก