จ่ายค่าตกใจให้พนักงาน สกสค.ถูกเลิกจ้างรายละ 1 แสนวันนี้

2020-07-03 11:15:38

จ่ายค่าตกใจให้พนักงาน สกสค.ถูกเลิกจ้างรายละ 1 แสนวันนี้

Advertisement

บอร์ด สกสค.มีมติจ่ายเงินค่าตกใจให้พนักงานที่ถูกเลิกจ้างรายละ 1 แสน รวม 961 ราย ภายในวันนี้

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายธนพร สมศรี รองเลขาธิการ สกสค. ในฐานะโฆษกคณะกรรมการ สกสค. แถลงข่าวภายร่วมการประชุม สกสค.กรณีเลิกจ้างพนักงาน สกสค. 961 รายกะทันหัน ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยนายประเสริฐ ยอมรับว่า ตลอด 18 ปีที่ผ่านมา สกสค.ขาดทุนมาโดยตลอด และมีหนี้สินสูงถึง 6,700 ล้านบาท ที่ผ่านมาแม้จะมีการแก้ปัญหาด้วยการจัดพิมพ์หนังสือเพื่อจัดจำหน่ายเพิ่ม แต่รายได้ก็ยังไม่เพียงพอกับรายจ่าย โดยเฉพาะเงินเดือนของพนักงานที่ต้องรับผิดชอบถึงเดือนละ 40 ล้านบาท จึงต้องดำเนินการปลดพนักงานออก พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ยุบองค์การฯ เพราะยังมีพนักงานทำงานเหมือนเดิมอยู่อีก 74 ราย โดยจะต้องฟื้นฟูเพื่อทำธุรกิจอื่นต่อไป

ด้าน นายธนพร กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติจ่ายเงินชดเชยให้กับพนักงานที่ถูกเลิกจ้างรายละ 1 แสนบาท หรือที่เรียกกันว่าค่าตกใจ รวม 961 ล้านบาทภายในวันนี้ทันที โดยไม่ต้องรอเบิกจ่ายในปลายเดือน ก.ค.แต่อย่างใด นอกจากนี้ที่ประชุมบอร์ดยังมีมติจ่ายเงินชดเชย แบ่งเป็น 2 ประเภทเต็มจำนวน ภายใต้เงื่อนไขอายุการทำงาน และเงินเดือนล่าสุดเป็นเกณฑ์การพิจารณา โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่มีอายุงานมากกว่า 20 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินชดเชยรวม 400 วัน หรือ 13 เดือน และกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่มีอายุงานต่ำกว่า 20 ปี จะได้รับเงินชดเชย 300 วัน หรือ 10 เดือน ซึ่งเจ้าหน้าที่องค์การค้าฯ จะได้รับเงินชดเชยมากกว่าพนักงานบริษัทเอกชนที่ถูกเลิกจ้างอย่างแน่นอน




สำหรับพนักงานที่ถูกเลิกจ้างทั้ง 961 ราย มีอายุงานเฉลี่ย 25 ปี 5 เดือน และมีเงินเดือนเฉลี่ยอยู่เดือนละ 31,287 บาท ซึ่งการพิจารณาค่าชดเชยครั้งนี้ ทาง สกสค.ต้องใช้เงินกว่า 423 ล้านบาทเศษ เมื่อรวมค่าบำเหน็ดของเจ้าหน้าที่จำนวน 861 ล้านบาทเศษแล้ว ต้องใช้เงินทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 1,285 ล้านบาท ซึ่งองค์การค้าฯ ต้องกู้ยืมเพื่อมาดำเนินการจ่ายค่าชดเชยดังกล่าว อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหาร สกสค.มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.63 ในการแต่งตั้ง นายอดุลย์ บุสสา ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้าฯ โดยมอบหมายภารกิจเร่งด่วนในการจัดทำแผนฟิ้นฟู สกสค.ภายใน 30 วัน ซึ่งหากมีแผนงานด้านบุคลากรและมีการว่าจ้างเจ้าหน้าที่ใหม่เพิ่มเติม ก็ให้รับสมัครใหม่ได้เลย ที่สำคัญ คือ ไม่ปิดกั้นพนักงานเก่าหากต้องการมาสมัครใหม่ก็สามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบของระเบียบใหม่ขององค์การค้าฯ