“ปลัดจอมแฉ” เดินหน้ารวบรวมหลักฐาน เอาผิด “ณอน บูรณะหิรัญ” ชี้อยากให้เป็นบทเรียน บรรทัดฐานของสังคม คนเราหากทำดีไม่มีสิ่งเคลือบแคลงก็จะไม่มีปัญหาใดๆ
จากกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับ “ฌอน บูรณะหิรัญ” ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ที่มีการทำโครงการเกี่ยวกับการรับเงินบริจาค ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่กลับถูกเพจเฟซบุ๊คออกมาตั้งข้อสงสัยกรณีเปิดรับเงินบริจาคดับไฟป่าเชียงใหม่ เนื่องจากทีมดับไฟป่าในพื้นที่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากโครงการดังกล่าวเลย ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
วันที่ 2 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ หรือปลัดจอมแฉ ได้พาตัวแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน ที่ลงพื้นที่เข้าเวรดับไฟป่าผืนป่าดอยสุเทพ ในพื้นที่ อ.แม่ริมนำโดยนายธรม รักษ์ธรรมธัญ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เข้ายื่นหนังสื่อร้องเรียนต่อทางราชการอย่างเป็นทางการที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.แม่ริม โดยชาวบ้านทุกภาคส่วนที่ทำงานด้านดับไฟป่าในพื้นที่ เกิดข้อกังขาว่ามีการประกาศขอรับบริจาคจะนำมาช่วยเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าดอยสุเทพ แต่ทำไมไม่เคยมีเจ้าหน้าที่คนไหนเคยได้รับเงิน ได้รับของ หรือเห็นหน้าของนายฌอนในพื้นที่เลย ทำให้เกิดความเสื่อมเสียในเรื่องที่เกิดขึ้น จึงขอให้ทางหน่วยงานราชการทำการตรวจสอบ ดำเนินดคี และหาความถูกต้องความจริงมาให้แก่ประชาชน ซึ่งหลังรับหนังสือทางนายบุญญฤทธิ์ ก็เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานและจะมีการออกหนังสือราชการเชิญนายฌอน มาพบกับเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น
ด้านปลัดจอมแฉ เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกรณีนายฌอน บูรณะหิรัญ แม้เรื่องราวจะผ่านมาหลายวันจนเป็นข่าวครึกโครม แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีการชี้แจงให้สังคมเข้าใจกับสิ่งที่เขากระทำลงไป ที่สร้างความคลางแคลงใจให้กับประชาชน หน่วยงานราชการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านดับไฟป่าดอยสุเทพมาก การเงียบ ไม่ส่งผลดีใดๆ พื้นที่แม่ริมของตนก็ถือเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศขอรับบริจาคของนายฌอน ในส่วนของตน ตนขอเวลาไม่กี่วันเท่านั้น ตอนนี้กำลังเร่งรวบรวมสอบสวนแจ้งไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ในพื้นที่ทั้งหมดและตรวจสอบอย่างละเอียดในทุกจุดก็พบว่าทุกคนไม่เคยเจอนายฌอน ไม่เคยได้รับสิ่งของหรือเงิน ไม่เคยเห็นนายฌอน มาช่วยใดๆ ตอนนี้ก็จะแยกส่วนการดำเนินการ โดยจะหาผู้เสียหายที่โอนเงินไปช่วยบริจาคที่บัญชีของนายฌอน มาแจ้งความร้องทุกข์ อีกทางหนึ่งก็จะให้เจ้าหน้าที่ที่ดับไฟป่าในพื้นที่มาร้องเรียน ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ เพื่อยื่นขอราชการตรวจสอบการรับบริจาคแล้วเงินไปที่ใด เพราะการประกาศขอรับบริจาคมีการอ้างถึงการนำมาช่วยเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าดอยสุเทพ ซึ่งหากมีการดำเนินการอย่างใดแล้วจะได้ดำเนินการตรวจสอบกับนายฌอนอย่างจริงจัง โดยหากหลักฐานครบทางอำเภอก็จะสามารถออกหนังสือเรียกนายฌอน ให้มาพบและให้ชี้แจงทุกประเด็นข้อสงสัยได้ ทั้งหมดขอเวลาทางอำเภอแม่ริมรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงข้อกฎหมายที่จะเอาผิดกับนายฌอนสักระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตามการที่ตนออกมาดำเนินการในเรื่องนี้เพราะอยากให้เป็นบทเรียน บรรทัดฐานของสังคม คนเราหากทำดีไม่มีสิ่งแคลบแคลงก็จะไม่มีปัญหาใดๆ แต่ก็อยากให้ประชาชนระวังมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสรับบริจาคนำเงินเข้าบัญชีตนเองไม่ขออนุญาต เอาเงินไปใช้ในทางที่ไม่ถูกวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของตนเอง ปลัดจอมแฉ กล่าวในที่สุด