ดร.ทีดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือฮู (WHO) แถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่ในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันพุธว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ทั่วโลก กำลังอยู่ในอัตราเร่ง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงกว่า 160,000 คนในแต่ละวันของสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อทั่วโลกตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกในจีนเมื่อปลายปีที่แล้ว เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ สหรัฐอเมริกา ที่มีการระบาดหนักที่สุด ต้องสั่งปิดบาร์และชายหาดอีกครั้ง ก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อฉลองวันชาติ 4 กรกฎาคมนี้
ข้อมูลที่เผยแพร่โดยฮู ยังพบด้วยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสรายวันทำสถิติสูงสุดในวันเดียว เกิดขึ้นในวันที่ 28 มิถุนายน ซึ่งทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อกว่า 189,500 คน ส่วนก่อนวันที่ 25 มิถุนายน มีผู้ติดเชื้อรายวันแล้วกว่า 160,000 คนถึง 2 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้ การติดเชื้อรายวันไม่เคยถึง 100,000 คน จนถึงวันที่ 18 พฤษภาคม
ขณะที่ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แล้วกว่า 511,000 คน และติดเชื้อมากกว่า 10.5 ล้านคน ทวีปอเมริกากลายเป็นศูนย์กลางของการระบาดในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในโลกมากกว่า 127,393 คน และติดเชื้อมากกว่า 2.6 ล้านคน ผู้ติดเชื้อในสหรับเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 40,000 คนต่อวัน หลายรัฐต้องกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากรัฐอื่นเป็นเวลา 14 วัน
รัฐแคลิฟอร์เนียต้องสั่งห้ามการรับประทานอาหารที่ร้านในลอสแอนเจลีส และอีกหลายเมือง ขณะที่รัฐนิวยอร์กก็ยกเลิกแผนการอนุญาตให้ร้านอาหารต่าง ๆ ให้ลูกค้านั่งรับประทานอาหารภายในร้านได้นับจากสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
เฉพาะแคลิฟอร์เนีย มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสประมาณ 6,000 คน ตอนแรกได้รับเสียงชื่นชมว่ารับมือการะบาดของไวรัสได้เร็ว แต่กลับมีผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงเป็นสถิติเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังการเปิดเศรษฐกิจ สถานการณ์ล่าสุดนี้ จึงส่งผลกระทบต่อการฉลองวันชาติไปด้วย ซึ่งหลายเมืองทั่วสหรัฐปรับลดพิธีการต่าง ๆ ลง ไม่ว่าจะเป็นการเดินขบวนและการแสดงดอกไม้ไฟเพื่อหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันของฝูงชนจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้ไวรัสระบาดมากขึ้น
ส่วนการเดินทางทางอากาศ ได้รับการพิจารณาว่ามีความเสี่ยง จึงทำให้สมาชิกในครอบครัวต่าง ๆ ลดการพบปะสังสรรค์และการทานข้าวนอกบ้าน ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในวันหยุดสำคัญดังกล่าว ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ซึ่งกำลังเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งสมัยที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ มีแผนเดินทางไปยังรัฐเซาท์ดาโกตาในวันศุกร์นี้ เพื่อชมการแสดงดอกไม้ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์ (The Mount Rushmore National Memorial) ซึ่งเป็นประติมากรรมแกะสลักใบหน้าของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ 4 คน คือ จอร์จ วอชิงตัน, โทมัส เจฟเฟอร์สัน, ทีโอดอร์ รูสเวล และอับราฮัม ลินคอล์น บนหน้าผาของภูเขาหินแกรนิตรัชมอร์
![](https://www.newtv.co.th/images/content/ct_20200702084407844.png)
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวแถลงว่า ทรัมป์จะเป็นประธานจัดงาน “สดุดีอเมริกา” (Salute to America) ในกรุงวอชิงตันในวันเสาร์ด้วย ซึ่งจะมีการแสดงดนตรี, สวนสนามของกองทัพ รวมทั้งการจุดดอกไม้ไฟที่สวยตระการตาเหนือเนชั่นแนล มอลล์ด้วย
ทั้งนี้ วันชาติ หรือวันประกาศอิสรภาพปีนี้ ถือเป็นการครบรอบปีที่ 244 ที่สหรัฐประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากอาณานิคมอังกฤษ ผ่านคำประกาศอิสรภาพสหรัฐอเมริกา หรือ Declaration of Independence ที่ถูกประกาศขึ้นในวันที่ 4 กรกฎาคม คริสตศักราช 1776 หรือ พ.ศ.2319