อย่ากลัวโควิดคัมแบ็ก เตียงยาออกซิเจนเพียบ

2020-07-01 21:05:50

อย่ากลัวโควิดคัมแบ็ก   เตียงยาออกซิเจนเพียบ

Advertisement



สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของไทยวันที่ 1 ก.ค.63 ไม่มีผู้ติดเชื้อจากภายในประเทศ ติดต่อกันเป็นวันที่ 37 แล้ว แต่พบการติดเชื้อจากคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศคูเวต 2 ราย เพศชาย อายุ 47และ 48 ปี อาชีพรับจ้าง ที่กักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ โดยตรวจพบในวันที่มาถึง เมื่อ 29 มิ.ย.63


มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 3 ราย จำนวนผู้กลับบ้านสะสม 3,059 ราย หรือ 96.41% ของผู้ป่วยทั้งหมด รักษาตัวในโรงพยาบาล 56 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มียอดรวมของผู้ติดเชื้อสะสม 3,173 ราย





ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ เข้ากักตัวเฝ้าระวังอาการในสถานที่รัฐจัดให้ ถึงปัจจุบัน มียอดสะสม 49,458 ราย พบผู้ติดเชื้อ 236 ราย ประเทศต้นทางที่พบผู้ติดเชื้อโควิด 19 สูงสุด คือ คูเวต กลับมา 293 ราย ติดเชื้อ 36 ราย (12.29%) ซาอุดิอาระเบีย กลับมา 274 ราย ติดเชื้อ 28 ราย ( 10.22%) ปากีสถาน กลับมา 196 ราย ติดเชื้อ 13 ราย ( 6.63%) อินโดนีเซีย กลับมา 1,092 ราย ติดเชื้อ 65 ราย ( 5.95%)


ขณะที่สถานการณ์โลก รายใหม่ ติดเชื้อ 176,719 ราย ยอดสะสม10,585,152 ราย เสียชีวิตรวม 513,913 ราย สหรัฐอเมริกา เป็นอันดับ 1 จาก 216 ประเทศ มีจำนวนติดเชื้อสะสม 2,727,853 มีเพิ่มขึ้นภายในวันเดียว 46,042 เสียชีวิตไปแล้ว130,122 ราย ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่96






วันที่ 1 ก.ค.63 เป็นวันแรกของการใช้ชีวิตแบบผ่อนคลายเกือบเต็มที่ เพราะมาถึงระยะที่ 5 ที่ให้กิจการ กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงสุด หรือระดับสีแดง เช่น สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ โรงเบียร์ ร้านเกม อาบอบนวด เปิดได้ ภายใต้มาตรการกำกับที่เคร่งครัด เช่น ต้องสแกนการเข้าออกผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะ การมีระยะห่างระหว่างบุคคล การสวมหน้ากากอนามัยและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยมีเจ้าหน้าที่ซึ่งจะต้องบันทึกการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน เช่นกัน ออกสุ่มตรวจตราอย่างเข้มงวด


สถานที่ต้องทำความสะอาดพื้นผิวที่มีการสัมผัสร่วมบ่อย ๆเช่น ไมโครโฟน ห้องน้ำ ราวบันได ลูกบิดประตู เปิดให้บริการได้ไม่เกิน 24.00 น. พนักงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ตลอดเวลา ผู้ใช้บริการก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตัวเอง นั่งยืน รวมกลุ่มได้ไม่เกิน 5 คน ไม่ใช้ช้อน จาน แก้วน้ำร่วมกับผู้อื่น สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย



โรงเรียนและสถานศึกษา ก็เปิดการเรียนการสอนในวันเดียวกัน มีมาตรการแบบนิวนอร์มอล ทั้งสลับวันเรียน เหลื่อมเวลาเรียน ตรวจคัดกรองก่อนเข้าโรงเรียน และปรับระบบการเรียน ทั้งไปที่โรงเรียน เรียนผ่านระบบโทรทัศน์ หรือระบบออนไลน์ หากมีการอาการไข้ให้หยุดเรียน 






แม้กิจการ กิจกรรมที่เสี่ยงสูงสุดให้เปิดได้แล้ว แต่กลุ่มที่ผู้เข้าไปร่วมกิจกรรมจะมีการแสดงออกที่ต้องมีเสียงเชียร์แรงๆ เช่นกีฬาตีไก่ ชนวัว ยังไม่ได้รับการผ่อนคลาย รวมถึงสนามมวย โดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า มวยจัดแข่งขันได้โดยไม่มีคนเข้าชม ถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์เช่นเดียวกับหลายประเทศ ลดความเสี่ยงของกองเชียร์ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะกำหนดมาตรการหากจะมีการแข่งขัน ผู้จัดขอคำปรึกษา หรือขออนุญาตได้


การผ่อนคลายให้กิจการ  กิจกรรม ดำเนินการได้เกือบทั้งหมด แม้บางประเภทมีความเสี่ยงสูง ทำให้เกิดกังวลต่อการระบาดรอบสองเหมือนที่เกิดขึ้นหลายประเทศ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การที่มีผู้ติดเชื้อในต่างประเทศเพิ่มขึ้นหลักแสนต่อวัน ไทยจึงต้องเตรียมความพร้อมหากเกิดการระบาดรอบสอง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงสาธารณสุข และนพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งต่อที่ประชุม ศบค.ถึงความพร้อมว่า ขณะนี้ มีเตียงผู้ป่วยใน กทม.และโรงแรมที่จัดทำเป็นสถานที่พักของผู้ปวย รวม 568 เตียง หน้ากาก เอ็น 95 จำนวน 1,127,970 ชิ้น ชุดป้องกันเชื้อ PPE 511,578 ชุด เครื่องช่วยหายใจ 11,096 เครื่อง และความพร้อมด้านยา Favipiravir จำนวน 319,994 เม็ด ใช้ได้ประมาณ 4,571 คน





เป็นความพร้อมที่รายงานเพื่อทราบว่า ทางการก็คาดการณ์ทำนองเดียวกัน
แต่ก็ไม่ได้ปล่อยตามยถากรรม จึงกำหนดมาตรการต่างๆให้ปฏิบัติกัน คนทั่วไป ย่อมกังวล หวั่นไหวได้ แต่การจะสกัดขัดขวางไม่ให้เกิดขึ้นไม่ใช่หน้าที่ของหมอหรือใครคนหนึ่งคนใด  เราทุกคนนี่ละที่จะช่วยป้องกัน


รักษาระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากาก ที่ไหนแออัดหนาแน่น เลี่ยงได้ ก็ไม่เสี่ยง ....แค่นี้