"อนุดิษฐ์" อัดนายกฯเป็นบิดาแห่งความเหลื่อมล้ำ เป็นผู้นำแห่งการก่อหนี้
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 น.อ.อนุดิษฐ์ อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวตอนหนึ่งว่า ฐานะทางการคลังเปราะบางสุ่มเสี่ยงต่อการล้มละลาย รัฐบาลกู้เองโดยตรงและหนี้ที่รัฐบาลค้ำประกันทั้งสิ้น 6.98 ล้านล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 43.8 ของจีดีพี น่าเป็นห่วงว่าถ้าการประมาณการรายได้ผิดและไม่สามารถเก็บภาษีได้ตามเป้า ปีงบประมาณต่อไปเหลือให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 60 ของจีดีพีจะเต็มเพดานและจะไม่สามารถกู้เงินมาพัฒนาเศรษฐกิจได้อีก ทั้งนี้จากสถิติรัฐบาลจัดเก็บรายได้ต่ำไว้กว่าที่ประเมินมา 6 ปีแล้ว แสดงว่า ประชาชนขาดกำลังซื้อจึงทำให้รัฐบาลจัดเก็บภาษีได้น้อยลง เศรษฐกิจไทยเริ่มตกต่ำมาตั้งแต่การยึดอำนาจ เฉลี่ยตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558-2562 ชำระหนี้เงินต้น 220,875 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วชำระคืนต้นเงินกู้ประมาณปีละ 44,000 ล้านบาท หากรวมหนี้ที่กู้มาชดเชยการขาดดุลงบประมาณรวม 2.791 ล้านล้านบาท จะต้องใช้เวลาชำระคืนถึง 64 ปี ยังไม่นับรวมหนี้เงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงิน1.1 ล้านล้านบาท หรือหนี้ที่จะต้องกู้ในปีงบประมาณ 2565 ถ้ายังสามารถกู้ได้ซึ่งอาจต้องใช้เวลาเกือบ 100 ปีจึงจะชำระหมด ตอนนี้รัฐบาลจะก่อหนี้ได้ไม่เกิน 2.4 ล้านล้านบาทที่เป็นยอดเต็มเพดานการก่อหนี้เมื่อรวมเงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงิน และที่ต้องกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณปี 2564 จึงเหลือวงเงินที่จะก่อหนี้ได้ภายในปี 2564 อีกประมาณ 750,000 ล้านบาท และหากมีเหตุอันไม่คาดฝันเกิดขึ้นจะทำให้ยอดหนี้สาธารณะสูงจนกู้เงินไม่ได้อีก
"นายกฯ เป็นบิดาแห่งความเหลื่อมล้ำเป็นผู้นำแห่งการก่อหนี้ ซึ่งหากอนาคตหนี้เต็มเพดานและรัฐบาลก่อหนี้ไม่ได้อีกจะเป็นปัญหากับการพัฒนาประเทศ ตอนนี้ประชาชนไม่มีรายได้แต่หนี้สูง โจทย์คือรัฐบาลจะเพิ่มกำลังซื้อในประเทศได้อย่างไร การเยียวยาที่จะจบในเดือนก.ค.นี้ก็ยิ่งจะทำให้สถานการณ์แย่ลงอีก ตัวเลขคนตกงานจะพุ่งนี้เป็น 7-10 ล้านคน รัฐบาลได้เตรียมอะไรไว้แล้วบ้างนอกจากการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่สิ่งที่น่าผิดหวังคือการจัดทำงบประมาณในปีนี้กลับไม่มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับความจำเป็นตอนนี้ แถมยังมีข้อมูลหลายส่วนที่ส่อไปในทางทุจริต ฮั้วประมูล ล็อกสเปก รัฐบาลกลายเป็นพ่อค้าหาบเร่”ขายงบประมาณให้กลุ่มทุน"น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว