"ปลัดห้วยผึ้ง" ยัน "ฤาษี 4 จี" ใช้ไม้แหลมทิ่มตัวผู้ป่วยเพื่อรักษาอาการปวดเมื่อยไม่เข้าข่ายหลอกลวง
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. จากกรณีที่มีการเผยแพราคลิปวิดีโอเผยให้เห็นชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ ใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มศีรษะไล่ผีให้พระผ่านโลกโซเชียล ส่งผลให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตวิพากษ์วิจารณ์ว่าผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ ล่าสุด พ.ต.อ.กิตติพงษ์ ยี่วาศรี ผกก.สภ.ห้วยผึ้ง พร้อมด้วยนายจรัญ จุนัน ปลัดอาวุโสอำเภอห้วยผึ้ง และเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.กาฬสินธุ์ เข้าตรวจสอบบริเวณที่พักของนายสังข์ทอง งอกคำ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 10 บ้านสันป่าแดง ต.ไค้นุ่น อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งจัดตั้งเป็นอาศรม หรือสำนักกองทัพพระนารายณ์ทรงศีล (ที่พักพญายม) โดยนายสังข์ทอง อยู่ในชุดแต่งกายคลายนักบวช หรือฤษี กำลังรักษาอาการปวดเมื่อยให้กับชาวบ้านที่มาใช้บริการจับเส้นโดยใช้ไม้ปลายแหลมเป็นเครื่องมือ โดยยืนยันว่าเป็นการบำบัดรักษาด้วยภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนโบราณ
ปลัดอำเภอห้วยผึ้ง กล่าวว่า กรณีที่มีผู้โพสต์และแชร์ภาพชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ประกอบพิธีกรรมบางอย่าง โดยมีพระภิกษุอยู่ในเหตุการณ์และอยู่ในอาการเหมือนเป็นผู้ให้การบำบัดรักษา ทำให้มีผู้วิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือไม่ ก่อนที่จะมีการตรวจสอบและพบว่าบุคคลที่ปรากฏในคลิปนั้นเป็นชาวบ้านสันป่าแดงที่สร้างที่พักอยู่นอกหมู่บ้าน ลักษณะเหมือบ้านสวนที่ปลูกสร้างประกอบไปด้วยอาศรม และเรือนรับรองหลายหลัง และจากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบนายสังข์ทอง ให้การบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยตามร่างกายให้กับชาวบ้านประมาณ 10 คน ที่เดินทางมาจากหลายหมู่บ้าน
ปลัดอำเภอห้วยผึ้ง กล่าวเพิ่มเติม ว่า จากการสอบถามนายสังข์ทอง และชาวบ้าน ทราบว่าเป็นการบำบัดรักษาตามกรรมวิธีของแพทย์แผนไทย หรือหมอโบราณ โดยไม่มีพฤติกรรมหลองลวงประชาชน ส่วนการแต่งกายดูคล้ายพระภิกษุนั้น นายสังข์ ระบุว่า เป็นความชอบส่วนบุคคล เนื่องจากเคยบวชมาหลายพรรษา จึงชอบแต่งกายแบบนี้ เพราะเคยชินและคล่องตัวดี แต่ไม่เคยเอาผ้าเหลืองไปแอบอ้างในทางทุจริต ทั้งนี้จากการตรวจสอบไม่มีส่วนใดเข้าข่ายผิดกฎหมาย หรือหลอกลวงประชาชน จึงไม่ได้จับกุมไปดำเนินคดีแต่อย่างใด
ด้าน นายสังข์ทอง ยืนยันว่า เป็นบุคคลคนเดียวกับที่ปรากฏอยู่ในคลิป ตนเคยบวชมานานถึง 11 พรรษา โดยในช่วงบวชชอบปฏิบัติธรรมกรรมฐานจนเกิดนิมิตเห็นองค์มีเทพ มาบอกวิธีรักษาอาการเจ็บป่วยให้กับชาวบ้านที่มีอาการผิดปกติทางร่างกาย เช่น ปวดกล้ามเนื้อ เส้น เอ็น ต่อมาจึงได้ลาลิกขา แล้วเดินทางไปร่วมงานกับคณะสงฆ์ในงานบุญประเพณี และงานพิธีต่างๆ หลายจังหวัด ส่วนคลิปที่มีการโพสต์อยู่ในโลกโซเชียลเป็นเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อน โดยตนทำการรักษาพระรูปหนึ่งที่สำนักสงฆ์ใน อ.แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา โดยใช้ไม้ปลายแหลมคู่จิ้มที่ศีรษะและจุดที่รู้สึกเจ็บปวดเท่านั้น ไม่ได้ไล่ผี หรือใช้มนต์คาถา และที่สำคัญ คือ ตนไม่ได้เรียกค่ารักษา สุดแท้แต่จะแต่ชาวบ้านแต่จะหยิบยื่นให้เท่านั้นเอง