บุกทลาย! แก๊งเชียงม่า เครือข่ายฟอกเงินข้ามชาติ

2020-06-25 15:20:58

บุกทลาย! แก๊งเชียงม่า  เครือข่ายฟอกเงินข้ามชาติ

Advertisement

เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกทลาย! แก๊งเชียงม่า เครือข่ายฟอกเงินข้ามชาติ เงินหมุนเวียนกว่า 1 หมื่นล้านบาท

วันที่ 25 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วรัตม์ชัย ศรีรัตนวุฑฒิ รอง ผบช.ภ.5พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วัวัฒนชัย รองผบก.สส.ภ.5 พร้อมเจ้าหน้าที่สืบสวนภาค 5 สืบสวนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการทลายเครือข่ายแก๊งฟอกเงิน "เฮียช้าง" ซึ่งมีการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้มากถึง 70 คนและยึดบัญชีธนาคารที่มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า การสืบสวนทลายแก๊งเครือข่ายฟอกเงินเฮียช้าง ทางตำรวจภูธรภาค 5 ใช้เวลาการสืบสวนขยายผลทลายเครือข่ายนานกว่า 1 ปี 6 เดือน โดยเริ่มจากเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดยาบ้า 9.4 ล้านเม็ด พร้อมตรวจยึดสมุดบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาได้ในเขตพื้นที่ สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดดังกล่าว พบว่า มีรับโอนเงินจากกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง จำนวนหลายครั้ง นอกจากจะมีการโอนเงินค่ายาเสพติดแล้วยังได้โอนเงินให้กับกลุ่มบุคคลสัญชาติพม่าที่น่าสนใจ จำนวน 2 บัญชี ซึ่งทำการตรวจสอบแล้วพบว่า มีการรับโอนเงิน จากบุคคลที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งที่ถูกจับกุมและยังไม่ถูกจับกุม จากทุกพื้นที่ทั่วประเทศ มีเงินหมุนเวียนในบัญชีประมาณ 130 ล้านบาท โดยมีลักษณะการทำธุรกรรมการเงินในการรับโอนเงินจากกลุ่มบุคคลที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จากนั้นจะโอนเงินออกไปให้ยังกลุ่มผู้ประกอบการค้าขายสินค้าต่าง ๆ ทั่วประเทศ กว่า 49 บัญชี มีเงินหมุนเวียนจำนวน 10,120,000,000 บาท โดยทุกบัญชีเกี่ยวพันกับคนจีน ที่ใช้ชื่อไทยว่า "เฮียช้าง"




ทั้งนี้การธุรกรรมการเงินดังกล่าว  เงินหมุนเวียนในบัญชีจะเป็นลักษณะการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย และการเหมาซื้อสินค้าจากประเทศไทย ส่งออกไปหลากหลายประเทศไทยเอเชีย และเงินก็กลับมาเป็นเงินบริสุทธิ์ เช่น บริษัทค้าทองคำ บริษัทค้าน้ำมัน บริษัทส่งออกผลไม้ อาหารทะเล ผู้ประกอบการส่งออกปศุสัตว์ เช่น วัว และควาย ซึ่งเครือข่ายนี้ยังเชือมโยงกับเครือข่ายมันทุกเม็ดของ ภาค 6 และ ภาค 5 เครือข่ายไอซ์ 500 กิโลกรัม ของ น.ส.จุ๋ม อดีตนางแบบแนวปลุกใจเสือป่า เครือข่ายพระแสงวรรณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสูงประเทศพม่า เครือข่าย “เจ๊แหม่ม” ตรัง นอกจากนี้จากการตรวจสอบบัญชีโดยละเอียดพบว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจำนวนมาก ทั้งที่เคยถูกจับกุมแล้ว และยังไม่ถูกจับกุม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องขออนุมัติศาลออกหมายจับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวนทั้งหมด 109 คน ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดยาเสพติด ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือกฎหมายว่าด้วยมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด" ต่อมาในห้วงระหว่างวันที่ 16 มิ.ย.63 ถึง วันที่ 22 มิ.ย.63 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้บูรณาการร่วมกับ ป.ป.ง. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับทั้งหมด โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ จำนวน 61 ราย อายัดตัวผู้ต้องหาในเรือนจำ จำนวน 13 ราย และตรวจค้นไม่พบตัวหรือหลบหนี จำนวน 35 ราย พร้อมตรวจยึดสมุดบัญชีธนาคาร และเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่ง

การระดมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมเฮียช้าง หรือนายเชียงม่า อายุ 45 ปี ชาวจีน ได้ที่กรุงเทพฯ ซึ่งจากการสอบสวนเฮียช้าง ได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้บริหารรับโอนเงินจากกลุ่มผู้ค้ายาในประเทศไทย ก่อนจะนำเงินทั้งโอนชำระค่าสินค้า แล้วมีการนำสินค้า ส่งออกไปที่ท่าเรือ ที่เมืองจิ่งหง ประเทศจีน ก่อนจะนำสินค้าตีกลับไปส่งให้กับกลุ่มพ่อค้ายาในประเทศพม่า และมีเงินค่าสินค้าที่คู่ค่าจะส่งกลับมาเป็นเงินที่ถูกกฎหมาย ซึ่งบัญชีที่มีการใช้ทั้งหมดจะแยกเป็นบัญชีของผู้ค้ายาเสพติดโดยตรง บัญชีของคนใกล้ชิดที่เปิดให้ผู้ค้ายาเสพติด เช่น สามี-ภรรยา,พ่อ-แม่,พี่-น้อง,ญาติ,เพื่อนสนิท บัญชีของบุคคลที่รับจ้างเปิดบัญชีโดยจะได้รับค่าตอบแทนตามที่ตกลงกัน ซึ่งการรับจ้างเปิดบัญชี จะมีการโฆษณาผ่านเว็บ facebook หรือ สื่อโซเชียลต่าง ๆ