ตร.พิจิตร บุกรวบ "แม่-ลูก" มอมยาพระสงฆ์ ก่อนขโมยเงินกว่า 5 หมื่นหลบหนี ทั้งที่มีอาการป่วยทางจิต
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. จากกรณีพรสงฆ์ของวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร ถูกมิจฉาชีพชายและหญิงใช้อุบายซื้อของมาทำบุญ ก่อนที่จะถวายเครื่องดื่มที่ผสมยานอนหลับให้พระสงฆ์ได้ดื่มจนมีอาการง่วงนอน จากนั้นจึงเข้าไปขโมยทรัพย์สินและเงินสดรวมูลค่ากว่า 5 หมื่นบาทแล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มคนร้ายยังก่อเหตุในลักษณะเดียวกันกับวัดที่ใน อ.ดงเจริญ และ อ.บางมูลนาก
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ สุวรรณ ผู้กำกับการ สภ.ดงเจริญ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี จนกระทั่งรู้ตัวที่กบดานจึงนำกำลังเข้าจับกุม นางชยาพร สนป้อม อายุ 40 ปี และนายสุรชัย พุกเปี่ยม อายุ 23 ปี ได้ที่บ้านเลขที่ 1/4 หมู่ที่ 3 ต.ภูมิ อ.บางมูลนาก ขณะนั่งอยู่ในบ้าน พร้อมของกลางเงินสด 45,000 หมื่นบาท, ฉลากกินแบ่งรัฐบาล 3 ใบ, เสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ และรถจักยานยนต์ ยี่ฮ้อ ชูชูกิ สแมช สีแดง คันที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัว นางชยาพร และนายสุรชัย ซึ่งเป็นแม่-ลูกกัน ไปดำเนินคดีที่ สภ.ดงเจริญ โดยแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์ และทำลายทรัพย์สิน
ด้าน พ.ต.ท.สายชล บัวเถื่อน สารวัตรสืบสวน สภ.ดงเจริญ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ออกติดตามผู้ต้องหาโดยดูภาพเส้นทางหลบหนีจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งดูภาพจากบริเวณร้านค้าที่ผู้ก่อเหตุลงไปซื้อของก่อนนำไปถวายพระจึงรู้ตัวคนร้าย ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายได้ที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่างๆ จากการสอบสวน นางชยาพร ยืนยันว่า มีอาการป่วยจิตเวชเหมือนกับลูกชาย ซึ่งต้องไปรักษาอาการที่ รพ.พิจิตร และรับยากับทางโรงพยาบาลบางมูลนาก แต่ด้วยความที่ไม่มีเงินและอยากรักษาลูกให้หาย จึงตัดสินใจตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์พระสงฆ์ โดยนำยาปรับสารสื่อประสาทของโรงพยาบาลนำไปบดใส่ชาเขียวและโอวัลตินแล้วให้พระดื่ม เมื่อเห็นพระหลับ จึงเข้าไปขโมยเงินพระ เพราะอยากมีเงินไปรักษาลูก
ขณะที่ นายสุวรรณ ศรีทอง ผู้ใหญ่บ้านบ้าน หมู่ 5 ต.ภูมิ อ.บางมูลนาก ซึ่งเป็นญาติของผู้ต้องหา ระบุว่า ทั้ง 2 คนป่วยเป็นโรคทางจิตมานานหลายปี พร้อมยอมรับว่าทั้งสองคนเป็นคนก่อเหตุขโมยทรัพย์สินจากพระสงฆ์ โดยใช้ยาจากโรงพยาบาลนำไปบดใส่กับเครื่องดื่ม แต่คาดว่าที่ทำไปเพราะจากอาการทางจิต และอยากให้สังคมเข้าใจถึงการกระทำของทั้งสองคนด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง2 ที่อ้างว่าป่วยเป็นโรคจิตเวช เพราะขณะที่ก่อเหตุยังมีสติดี พูดรู้เรื่อง ประกอบกับผู้ต้องหาซึ่งเป็นแม่ให้การรับสารภาพ ตำรวจจึงได้ตั้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และทำลายทรัพย์ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีไปตามกฎหมาย