วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ จ.พิษณุโลก ออกประกาศแจ้งพุทธศาสนิกชน จำกัดเวลาเวียนเทียน เหลือ 2 ชั่วโมงครึ่ง จากเดิมเปิดให้เวียนถึงเที่ยงคืน ด้านนักท่องเที่ยวเห็นด้วยที่ให้ทำกิจกรรมในวัดได้
วันที่ 23 มิ.ย. ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารหรือวัดใหญ่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก นักท่องเที่ยวทั้งจากในและต่างจังหวัดจำนวนมาก ยังคงเดินทางมากราบไหว้สักการะ พระพุทธชินราชพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองกันอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าทางวัดจะเข้มงวดในเรื่องของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ไม่อนุญาตให้ผู้ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเข้าไปภายในพระวิหาร และทุกคนจะต้องใช้เจลล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย จะต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส จึงจะสามารถเข้าไปภายในพระวิหารพระพุทธชินราชได้ อย่างจำกัดจำนวนและขอความร่วมมือควรใช้เวลาภายในพระวิหารไม่เกิน 5 นาที ก็ตาม
ล่าสุด คณะกรรมการวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ได้ติดป้ายประกาศ กำหนดการเวียนเทียนวันอาสาฬหบูชา ใจความว่า เนื่องด้วยวันที่ 5 กรกฎาคม 2563 เป็นวันอาสาฬหบูชา ทางวัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จึงกำหนดให้มีการเวียนเทียนตามที่เคยปฏิบัติมา แต่มีการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ทางวัดจึงให้สาธุชนที่มาร่วมเวียนเทียนปฏิบัติตามข้อกำหนดของวัด โดยไม่มีข้อยกเว้น ดังต่อไปนี้
1. กำหนดให้เวียนเทียนในวันที่ 5 กรกฎาคม 2563 เริ่มเวียนเทียนเวลา 15.00 น.ถึง 17.30 น.
2. ให้เดินเวียนเทียนในบริเวณที่วัดกำหนดให้เท่านั้น
3 เว้นระยะห่างจากคนข้างหน้า 1 เมตร และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
4.ปฏิบัติตามคำแนะนำเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
จากประกาศดังกล่าวทำให้ พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดพิษณุโลก ที่เคยมาเวียนเทียนที่วัดนับหมื่นคนตั้งแต่เย็นถึงเที่ยงคืนที่บริเวณรอบพระวิหารพระพุทธชินราช จะต้องวางแผนหรือเลือกสถานที่เวียนเทียนใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงจากการเข้ามาเวียนเทียนพร้อมๆกันในช่วงเวลาที่อนุญาตอย่างจำกัด เหลือระยะเวลาให้เวียนเทียนเพียงแค่ 2 ชั่งโมงครึ่งเท่านั้น
ด้านพุทธศาสนิกชน ที่มาไหว้พระในวันนี้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกดีใจและเห็นด้วยที่วัดต่างๆ เปิดโอกาสและอนุญาตให้พุทธศาสนิกชนเข้าวัดทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาได้เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังคงเกิดความกังวล จึงอยากให้ทางวัดเข้มงวดและผู้ที่จะเข้ามาภายในวัดควรจะปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของทุกคน