"จักษุแพทย์" เตือนใช้มือถือนานอาจเกิด "ภาวะเพ่งค้าง"

2020-06-19 18:25:01

"จักษุแพทย์" เตือนใช้มือถือนานอาจเกิด "ภาวะเพ่งค้าง"

Advertisement

"จักษุแพทย์" เตือนใช้มือถือนานอาจเกิด "ภาวะเพ่งค้าง" แนะใช้หลัก 20-20-20 เพื่อความปลอดภัยต่อดวงตา

รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานวิชาการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยกับทีมข่าวนิว18 ว่า การใช้สายตากับหน้าจอโทรศัพท์มือต้องแยกเป็น 2 ส่วน ปัญหาแรกคือการใช้สายตามองใกล้ การเพ่งมอง หน้าจอเป็นเวลานานซึ่งในปัจจุบันพบได้บ่อย โดยเฉพาะในเด็ก เรียกว่าภาวะเพ่งค้าง หรือ สายตาสั้นเทียม มีอาการคล้ายสายตาสั้น มองไม่ชัดเจน แต่เมื่อได้พักสายตา เป็นเวลาครึ่งวันหรือหนึ่งวัน หรือพบหมอตาเพื่อรับยามาหยอด ภาวะดังกล่าวก็จะหายได้ ส่วนปัญหาที่สอง คือ เมื่อแสงหน้าจอเข้าสู่ดวงตามากเกินไป ในขณะที่ใช้มือถือในที่มืด รูม่านตาจะขยายกว้างขึ้น ก็อาจเกิดภาวะเพ่งค้างได้เช่นเดียวกัน

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับในวงการจักษุแพทย์ว่าการที่เด็กในปัจจุบันมีวิถีชีวิตอยู่ในที่แคบตลอดเวลา เช่น ในห้องนอน ห้องเรียน หรือ การใช้โทรศัพท์มือถือทั้งวัน ทำให้ปัจจุบันเกิดภาวะสายตาสั้นในเด็กเพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นการใช้โทรศัพท์มือถือก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้สายตาเกิดความผิดปกติ เช่น สายตายาวจะทำให้เด็กมีลักษณะผิดปกติคือตาเขเข้าใน หรือสายตาสั้นสายตาเอียงมากๆก็อาจจะเกิดอาการตาเขเหล่ออกข้างนอกได้ แต่ภาวะดังกล่าว ก็อาจจะเกิดจากปัจจัยอื่นๆได้ เช่น กรรมพันธุ์ร่วมด้วย ซึ่งหากเด็กมีอาการดังกล่าวข้างต้น ทั้งจากการใช้สายตา หรือ กล้ามเนื้อตาไม่สมดุล หากแพทย์วินิจฉัยว่าสาเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจากสายตาผิดปกติก็จะให้สวมใส่แว่นตาและติดตามอาการ ก็สามารถทำให้สายตากลับมาตรงได้ แต่หากตรวจแล้วพบว่า อาการดังกล่าวไม่ได้เกิดจากสายตาผิดปกติ แต่เกิดจากกล้ามเนื้อตาไม่สมดุล และสวมใส่แว่นตาไประยะหนึ่งแล้วไม่ดีขึ้น ก็จะรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด ยืนยันทุกอาการสามารถรักษาได้ ทั้งนี้ หากสายตามนุษย์สัมผัสกับคลื่นแสงสีฟ้า จากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นระยะเวลาที่ติดต่อกันนานๆ จะทำให้เกิดภาวะจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งในอดีตอาจเกิดเฉพาะในผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันทางการแพทย์กังวลว่าภาวะดังกล่าวอาจเกิดขึ้นกับคนช่วงอายุน้อยขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลักการใช้โทรศัพท์มือถือที่ผู้ปกครองสามารถนำไปปรับใช้กับบุตรหลานได้คือ 20-20-20 หมายถึง ทุกๆ 20 นาทีของการใช้สายตามองหน้าจอ จะต้องหยุดพักอย่างน้อย 20 วินาที โดยให้มองออกไปไกล ในระยะประมาณ 6 เมตร (20ฟุต) เพื่อคลายการเพ่งของสาย และควรสร้างสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม ให้สถานที่ไม่มืดหรือสว่างมากเกินไปรวมถึงการตั้งค่าหน้าจอ ไม่ให้มีแสงสว่างมากเกินไปด้วย