"พระพยอม" ยื่น 2 ทางเลือกให้เจ้าของที่ดินตัดสินใจยุติข้อพิพาท ด้านอัยการมั่นใจได้ 10 ล้านคืนแน่นอน
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. จากกรณีพระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เกิดข้อพิพาทเรื่องวัดสวนแก้ว ซื้อที่ดินปรปักษ์จำนวน 1 ไร่ 1 งาน 55 ตารางวา จำนวน 10 ล้านบาท แต่กลับถูกทายาทที่ดินเดิมฟ้องศาลจนสุดท้าย วัดสวนแก้ว แพ้คดีต้องคืนที่ดินผืนดังกล่าวให้กับเจ้าของเดิม เกี่ยวกับเรื่องนี้ พระพยอม พร้อมด้วย นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี จึงเปิดแถลงข่าวชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
โดย พระพยอม กล่าวว่า ขณะนี้รู้สึกสบายใจ และยอมรับว่า นายปรเมศวร์ สามารถหาทางออกเกี่ยวกับข้อพิพาทที่ดินให้กับทุกฝ่ายได้อย่างเป็นธรรม หลังจากนี้วัดสวนแก้ว จะจัดทีมทนายความเพื่อไปเจรากับทายาทซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินตัวจริง หากยอมรับข้อเสนอก็จะจ่ายเงินเพิ่มให้อีก 3 ล้านบาท เพื่อแลกกับการคืนที่ดินให้กับวัดสวนแก้ว แต่หากไม่ยินยอม เจ้าของที่ต้องนำเงินมาคืนวัดสวนแก้ว จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้น
ด้าน นายประเมศวร์ กล่าว ว่า ขณะนี้วัดสวนแก้ว จะยังไม่ดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับเรื่องคดีความ แต่จะยึดเหนี่ยวที่ดินซึ่งเป็นขอ้พิพาทเอาไว้ก่อนจนกว่าจะมีหมายศาลขับไล่ จึงจะใช้ประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332 ประกอบกับมาตรา 4 ตอบโต้กลับ เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวระบุว่าสามารถอาศัยหลักจารีตประเพณีการปกครองเข้ามาช่วยวัดสวนแก้ว ที่ซื้อที่ดินโดยสุจริตได้ ทั้งนี้มั่นใจว่าวัดสวนแก้ว จะได้เงินคืน 10 ล้านบาทอย่างแน่นอน เพราะผู้กระทำผิด คือ นางวันทนา สุขสำเริง เป็นผู้ไปขอออกโฉนด โดยที่ทายาทผู้ครอบครองที่ดินผืนดังกล่าวไม่ใส่ใจกลับปล่อยทิ้งร้างมานานกว่า 20 ปี ตามกฎหมายแพ่งถือว่าเป็นการสละสิทธิ์ครอบครองที่ดินผินนั้นแล้ว