ทหารกองทัพอินเดีย และทหารกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ลุยปะทะกันดุเดือด ตามแนวเขตแดนร่วม บนเทือกเขาหิมาลัย เมื่อวันจันทร์ (15 มิ.ย.) เป็นเหตุให้ทหารอินเดียเสียชีวิตอย่างน้อย 20 นาย ส่วนฝ่ายจีนสูญเสียหนักเช่นกัน แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้แน่ชัด นับเป็นการสู้รบกันรุนแรงที่สุด ในรอบ 45 ปี ระหว่าง 2 ประเทศประชากรมากที่สุดในโลก และต่างก็มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง
การสู้รบมีขึ้นที่ภูมิภาคลาดัคห์ แคว้นแคชเมียร์ ส่วนที่อยู่ภายใต้การปกครองของอินเดีย ทางภาคเหนือฝั่งตะวันออก และทางภาคตะวันตกของจีน โดยกองทัพอินเดียแถลงว่า ไม่มีฝ่ายใดยิงกระสุนปืนแม้แต่นัดเดียว ทหารทั้งสองฝ่ายตะลุมบอนชกต่อย และขว้างปาก้อนหินใส่กัน นับเป็นการเผชิญหน้าระหว่าง 2 ฝ่าย ครั้งรุนแรงสุด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518
เช้าวันอังคาร กองทัพอินเดียแถลงว่า มีทหารอินเดียเสียชีวิตจากการปะทะ 3 นาย แต่ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ได้รับตัวเลขขึ้นเป็นอย่างน้อย 20 นาย เนื่องจากทหารที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เสียชีวิตอีก 17 นาย และหลังการลุยปะทะสงบลง ทหารทั้ง 2 ฝ่ายต่างถอนตัวออกจากพื้นที่
กองทัพจีนยังไม่มีการแถลงตัวเลขความสูญเสีย ที่เชื่อว่าไม่น่าจะน้อยกว่าฝ่ายอินเดีย โดยกองทัพจีนเผยเพียงสั้นๆ ว่า ทหารอินเดีย “หาเรื่อง” ทหารจีนก่อน แต่ไม่เผยรายละเอียด
ทางด้านนายไมเคิล คูเกลแมน ผู้เชี่ยวชาญเอเชียใต้ของศูนย์วิลสัน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ความรุนแรงล่าสุด ไม่น่าจะลุกลามบานปลาย กลายเป็นสงครามสู้รบเต็มรูปแบบ แม้จะมีทหารเสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็ไม่พร้อมที่จะทำสงคราม และเขาเชื่อว่าวิกฤติจะยุติลงในอีกไม่นาน
ความขัดแย้งยืดเยื้อเหนือภูมิภาคลาดัคห์ ระหว่างอินเดียกับจีน มีมานาน โดยจีนกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ เหนือพื้นที่ 90,000 ตารางกิโลเมตรในลาดัคห์ ขณะที่อินเดียกล่าวว่า จีนยึดครองพื้นที่ 38,000 ตารางกิโลเมตรของอินเดีย บนที่ราบสูงอัคไซ ชิน ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายของภูมิภาคลาดัคห์
รัฐบาลอินเดียประกาศแยกลาดัคห์ ออกจากแคว้นแคชเมียร์ เป็นดินแดนสหภาพแห่งใหม่ เมื่อเดือน ส.ค. 2562 และจีนเป็นหนึ่งในเพียงไม่กี่ประเทศ ที่กล่าวประณามความเคลื่อนไหวนี้ รวมทั้งหยิบยกประเด็นเข้าสู่ที่ประชุมระหว่างประเทศ รวมถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ.