ข้อมูลจากศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงสถิติ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ ซึ่งรวมรวบสถิติการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกตั้งแต่ต้น สรุปสถานการณ์ล่าสุดเช้าวันนี้ตามเวลาในไทย พบว่า ผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 8 ล้านรายแล้ว ขณะผู้ติดเชื้อในลาตินอเมริกาและสหรัฐ เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่วนจีนก็ต้องกลับมาเผชิญหน้ากับการระบาดระลอกใหม่ โดยสหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในโลกมากกว่า 2.1 ล้านราย หรือ 25 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมด และเสียชีวิตกว่า 116,000 ราย อย่างไรก็ตาม ไวรัสมรณะระบาดอย่างรวดเร็วที่สุดในลาติน อเมริกา ซึ่งขณะนี้ คิดเป็น 21 เปอร์เซ็นต์ของการระบาดทั่วโลก
เฉพาะบราซิล มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐ แต่แม้ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการของบราซิล เพิ่มขึ้นอยู่ที่เกือบ 44,000 ราย แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข แถลงว่า ผลกระทบที่แท้จริงดูเหมือนจะห่างไกลจากข้อมูลของทางการมาก เนื่องจากบราซิล ประเทศใหญ่สุดในลาตินอเมริกา ไม่มีการตรวจหาเชื้อ
กระทรวงสาธารณสุขของบราซิล แถลงว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีกอย่างน้อย 626 ราย รวมตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วประเทศเป็นอย่างน้อย 43,959 รายแล้ว ส่วนผู้ติดเชื้อรายวันวันเดียวอย่างน้อย 20,647 คน รวมตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 888,271 ราย
ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ยังครบรอบ 1 เดือนด้วยที่บราซิลไม่มีรัฐมนตรีสาธารณสุข มีเพียงรัฐมนตรีรักษาการ หลังการลาออกของนายเนลสัน เทช เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งตั้งแต่การลาออกของนายเทช กระทรวงสาธารณสุขของบราซิลก็นำโดยพลเอก เอดูอาร์โด ปาซูเอลโล นายพลในกองทัพ ที่ประธานาธิบดีจาอีร์ โบลโซนาโร ผู้นำบราซิลลงนามในคำสั่งแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีรักษาการเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา
การลาออกของนายเทชในเดือนพฤษภาคม เป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขคนที่ 2 ที่ลาออกระหว่างการระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากโบลโซนาโร ปลดนายหลุยซ์ เฮนริเก แมนเดตตา ในเดือนเมษายน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการระบาดอย่างรุนแรง รัฐต่าง ๆ และหลายเมืองของบราซิลก็เริ่มผ่อนคลายกฎเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ social distancing หลังบังคับใช้มานานหลายสัปดาห์ ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากประธานาธิบดีโบลโซนาโร ที่ย้ำแล้วย้ำอีกให้ยกเลิกมาตรการล็อคดาวน์ เพื่อเปิดเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ นายไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ภูมิภาคลาตินอเมริกา ยังเป็นสาเหตุของความวิตกกังวล โดยเขาบอกว่า ไม่ใช่เฉพาะบราซิลเท่านั้นในทวีปอเมริกา ยังมีอีกหลายประเทศ เช่นเม็กซิโก, ชิลี และประเทศอื่น ๆ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง สถานการณ์ในอเมริกากลางและใต้ กำลังน่าเป็นห่วง
มีรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสรายแรกในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีนในช่วงต้นเดือนมกราคม และใช้เวลาจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 4 ล้านคน จากนั้นอีกเพียง 5 สัปดาห์เท่านั้น ผู้ติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า อยู่ที่มากกว่า 8 ล้านคน
ส่วนผู้เสียชีวิตทั่วโลก อยู่ที่กว่า 436,000 คน ซึ่งก็เพิ่มสูงขึ้น 2 เท่าใน 7 สัปดาห์