รายงานวันที่ 15 มิ.ย.63 ประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็น 0 รวมถึงพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) ก็ไม่มี ทั้งเป็นการไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นวันที่ 21 หรือ 3 สัปดาห์แล้ว
ผู้ป่วยรักษาหายไม่มี ผู้เสียชีวิตก็ไม่มีเพิ่ม ยอดสะสมผู้ป่วย 3,135 ราย ที่หายกลับบ้านแล้ว 2,987รายหรือ 95.28%
ประชาชนผู้ใช้บริการ รวมถึงนักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน ได้รับคำแนะนำให้มีส่วนร่วมระมัดระวังตัว สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด งดการจับต้อง จุดที่มีผู้สัมผัสบ่อย เช่นลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟต์ โต๊ะ ราวบันได ราวจับต่าง ๆ หมั่นล้างมือโดยเฉพาะเมื่อสัมผัสพื้นผิวที่มีคนทั่วไปจับต้อง
การใชระบบขนส่งสาธารณะ ก็ควรอยู่ในจุดที่กำหนด เพื่อลดความแออัด
แต่ ก่อนถึงเวลาผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ มีการยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานช่วงห้าทุ่มถึงตีสาม คืนวันที่ 14 มิ.ย.63 มีผู้รายงานกับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กระทรวงกลาโหมว่า มีเด็กแว้นออกมาขับขี่รถแข่งกันบนท้องถนน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นี่คือคนที่ไม่ร่วมมือ เป็นเรื่องที่สังคมและผู้ปกครองต้องร่วมมือกัน ขืนทำอย่างนี้ เดี๋ยวก็กลับมาเคอร์ฟิวใหม่ หากยังไม่รู้จักควบคุมตนเอง สถานประกอบการทั้งหลายต้องช่วยกันดูแลตามมาตรการของรัฐ หากผ่อนปรนแล้วไม่ได้รับความร่วมมือจะให้ทำอย่างไร หรือให้ทุกอย่างกลับไปอยู่ที่เดิม และว่า จะสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมพวกเด็กแว้นที่ฝ่าฝืน เพื่อดำเนินคดีติดคุก
จังหวะเดียวกันได้เกิดการระบาดระลอกใหม่ในประเทศจีน มีผู้ป่วยถึง 57 ราย สูงสุดในรอบ 2 ดือน โดยพบผู้ติดเชื้อในกรุงปักกิ่ง 36 คนเชื่อมโยงกับตลาดค้าส่ง ซินฟาตี้ พบเชื้อในเขียงปลาแซลมอน จึงต้องปิดตลาดอย่างมีกำหนด ผู้เกี่ยวข้องกับตลาด 10,000 รายต้องตรวจหาเชื้อ และระงับแผนการเปิดโรงเรียนชั้น ป.1-3 กับปิดพื้นที่ชุมชนพักอาศัย อีก 11 แห่ง ห้ามออกจากบ้าน ห้ามเดินทางข้ามเมืองและงดการแข่งขันกีฬาทุกชนิด
มาถึงขั้นนี้ ก็ต้องเดินหน้าต่อไปด้วยความระมัดระวัง ทั้งผู้ประกอบการ และชาวบ้านผู้ใช้บริการทั้งหลาย
หลีกเลี่ยงที่แออัด เว้นระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากาก เลือกรับประทานอาหารปรุงสุก
อย่าลืมคลิกแอป เช็กอินไทยชนะด้วย
15มิ.ย.63 เป็นวันแรกของการผ่อนคลายระยะที่ 4 ให้กิจการ กิจกรรมในกลุ่มเสี่ยงสูง หรือสีแดง เปิดดำเนินการ ได้แก่ สถานศึกษา สถาบันกวดวิชา ร้านอาหาร สถานรับเลี้ยงเด็ก ระบบขนส่งสาธารณะ สวนสนุกสระว่ายน้ำ สนามกีฬา ลานกิจกรรม ศูนย์ประชุม กองถ่ายภาพยนตร์ สปา โดยผู้ประกอบการต้องปรับรูปแบบกิจกรรมและสถานที่เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ที่กำหนด คือการเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะ ที่นั่ง การเดิน การควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการไม่ให้แออัด จัดจุดคัดกรอง จุดแอลกอฮออล์ เจลล้างมือ ทำความสะอาดพื้นผิวบ่อยขึ้น
การไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อถึง 21 วัน มีการผ่อนคลายมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดจนถึงระยะที่ 4 และเริ่มเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวในรูปแบบ ทราเวล บับเบิล (Travel Bubble) หรือการจับคู่ด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มประเทศที่มีความมั่นใจในความปลอดภัยของโรคโควิด-19 ซึ่งมีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและที่ยังเกรงจะเกิดผลให้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดขึ้นมาอีก
กรณีนี้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ต้องขอให้ประชาชนเน้นรับประทานอาหารที่ผ่านการปรุงสุกในช่วงนี้ เพื่อความปลอดภัยรวมถึงการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ได้ตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยสุ่มตรวจสอบพื้นที่ตลาดสดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการติดตาม ตรวจสอบสถานประกอบการผ่านการประเมินผลของผู้เข้าใช้บริการผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ด้วย