ป.ป.ช. สั่งตั้งกรรมการสอบไล่บี้ 23 เรื่องร้องเรียน ปม "ท้องถิ่น" ทุจริตจัดซื้อ-จัดจ้างงาบงบสู้โควิด-19
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กล่าวขณะเสวนา "การตรวจสอบเงินกู้ 4 แสนล้านบาท-เงินสะสมท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาโควิด-19" ว่า แม้วันนี้แผนงานโครงการที่เกี่ยวข้องกับเงินกู้ยังไม่เกิดขึ้น แต่มีวงเงินที่ได้รับการอนุมัติแล้ว จึงยังไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะยังไม่เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทุจริต แต่สำนักงาน ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ พ.ร.ก.กู้เงิน เพื่อแก้ไขสถานการณ์โควิด วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท โดยเตรียมความพร้อมที่จะการตรวจสอบทันทีที่โครงการต่างๆ ได้รับการอนุมัติ
นายวรวิทย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการตรวจสอบงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาโควิด โดยเฉพาะการใช้เงินกู้ 4 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม หากมีการร้องเรียน หรือเป็นคดี ป.ป.ช.จะยกเป็นคดีเร่งด่วนมาตรวจสอบทันที เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเงินจำนวนมาก จึงต้องเร่งตรวจสอบเพื่อให้เห็นผลของคดีทันที โดยช่วงที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการตรวจสอบทุจริต หารือกันว่าจะมีการตั้งเว็บไซต์เฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการใช้เงินกู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม กรอบวงเงิน 4 แสนล้านบาท สำหรับการใช้จ่ายเงินกู้ก้อนนี้ ป.ป.ช.จะถือเป็นเคสพิเศษที่ต้องมีการตรวจสอบ เพราะมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันหากประชาชนพบความผิดปกติเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ขอให้รีบส่งข้อมูลไปให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบทันที
เลขาธิการ ป.ป.ช. ยังกล่าวถึงการตรวจสอบเงินสะสมท้องถิ่นที่ถูกใช้ไปในการแก้ไขปัญหาไวรัสโควิด-19 ว่า ปัจจุบันมีเรื่องร้องเรียนที่ ป.ป.ช. รับไว้ตรวจสอบแล้วทั้งหมด 23 เรื่อง แบ่งเป็นภาคเหนือ 3 เรื่อง ภาคกลาง 10 เรื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 เรื่อง และภาคใต้ 3 เรื่อง โดยในส่วนนี้ได้จัดตั้งอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนแล้ว โดยทั้ง 23 เรื่อง มีผู้ร้องเรียนหลากหลายประเภท ทั้งเรื่องซื้อของแพงเกินกว่าความเป็นจริง, เรื่องติดตั้งอุโมงค์ฆ่าเชื้อ รวมถึงการซื้อยาเวชภัณฑ์ เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ การจัดซื้อหน้ากากอนามัย หรือถุงยังชีพ ตลอดจนการเรื่องเรียกรับเงิน ซึ่งในส่วนนี้มีทั้งเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องใหญ่เกี่ยวกับการจัดทำโครงการซึ่งมีบุคคลเข้าไปเกี่ยวข้อง