คิม โย จอง น้องสาวคิม จอง อึน กุมบทบาทสำคัญ เปิดศึกโสมขาว

2020-06-10 16:00:09

คิม โย จอง น้องสาวคิม จอง อึน กุมบทบาทสำคัญ เปิดศึกโสมขาว

Advertisement


คิม โย จอง น้องสาวของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ รับบทบาทผู้นำในการรณรงค์เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อเกาหลีใต้ให้หนักมากขึ้น ซึ่งตอกย้ำให้เห็นในสิ่งที่บรรดานักวิเคราะห์มองว่า เป็นบทบาทเชิงนโยบายที่สำคัญเกินกว่าการเป็นเพียงผู้ช่วยให้พี่ชายของเธอ

คิม โย จอง ซึ่งเชื่อว่ามีอายุ 30 ปีต้น ๆ เป็นญาติสนิทเพียงคนเดียวของคิม จอง อึน ที่ยังมีบทบาทในเวทีการเมืองที่เห็นบ่อยครั้งที่สุด โดยระหว่าง 2561-2562 คิม โจ ยอง ปฏิบัติหน้าที่ทูตระดับนานาชาติ เมื่อเธอได้รับความสนใจไปทั่วโลกด้วยการนำคณะผู้แทนไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส์ฤดูหนาวในเกาหลีใต้ ในปี 2561 จากนั้น เธอก็ปรากฏตัวเคียงข้างพี่ชายอยู่ตลอด เพื่อให้แน่ใจว่า ภารกิจในการบริหารประเทศของพี่ชายจะดำเนินไปได้ด้วยดี ซึ่งรวมทั้งแม้แต่การถือที่เขี่ยบุหรี่ให้พี่ชาย ที่สถานีรถไฟระหว่างเดินทางไปเข้าร่วมประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีโดนัดล์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม



แต่ในปีนี้ คิม โย จอง รับบทบาทด้านนโยบายมากขึ้น ซึ่งเท่ากับกระชับฐานะของเธอ ให้เป็นผู้ที่มีบทบาททางการเมืองที่ทรงอิทธิพล ราเชล มินยัง ลี อดีตนักวิเคราะห์ด้านข่าวกรองในรัฐบาลสหรัฐ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ คิม โย จอง ปรากฏในสื่อของรัฐในฐานะน้องสาวของคิม จอง อึน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ด้านพิธีการ หรือไม่ก็แค่ผู้ติดสอยห้อยตามพี่ชายเท่านั้น แต่ขณะนี้ ชาวเกาหลีเหนือรู้แน่นอนแล้วว่า เธอมีบทบาทสำคัญมากกว่านั้น

คิม โย จอง ทำงานอยู่เบื้องหลังในสำนักงานโฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นบทบาทหนึ่งที่ทำให้สหรัฐเพิ่มชื่อของเธอเข้าในบัญชีดำของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือที่สหรัฐคว่ำบาตรในปี 2560 เพราะการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการเซ็นเซอร์



ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สื่อรัฐบาลโสมแดง เผยแพร่แถลงการณ์ฉบับแรกของคิม โย จอง เท่าที่เคยเห็น ซึ่งเธอวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเกาหลีใต้ และยังวิพากษ์วิจารณ์อีกหลายครั้ง ซึ่งรวมทั้งการตอบโต้ถ้อยแถลงของทรัมป์ และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เธอออกมาเตือนว่า เกาหลีเหนือจะตัดขาดทุกช่องทางการติดต่อสื่อสารกับเกาหลีใต้

นายลี กล่าวว่า แถลงการของคิม โย จอง มีลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนใคร แสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดและตอกย้ำตำแหน่งที่ทรงอิทธิพลของเธอ นอกเหนือจากคำพูดที่เกรี้ยวกราดและการเสียดสีที่เผ็ดร้อนแล้ว แถลงการณ์ยังแสดงถึงไหวพริบในลักษณะที่แถลงการณ์ของคนอื่น ๆ ไม่มี เธอดูเหมือนว่าจะมีเวลามากขึ้นในการร่างและตรวจแถลงการณ์ของเธอ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ

เมื่อสื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ประกาศเมื่อวันอังคารว่า สายด่วน หรือ ฮอตไลน์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ จะถูกตัดขาด สื่อบอกว่า คิม โย จอง และคิม ยอง ชอล หนึ่งในบุคคลสำคัญของเกาหลีเหนือ ตัดสินใจดังกล่าวระหว่างการประชุมร่วมกัน