เร่งตามหลักฐานปิดคดีเจ้าเตี้ย จ่อเอาผิด “ส.ต.ท.” ต้องสงสัย (คลิป)

2020-05-18 15:20:09

เร่งตามหลักฐานปิดคดีเจ้าเตี้ย  จ่อเอาผิด “ส.ต.ท.” ต้องสงสัย  (คลิป)

Advertisement

ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือก เร่งตามหาหลักฐานคดีเจ้าเตี้ย มช. พร้อมเรียกตัว ส.ต.ท.ต้องสงสัยมาสอบสวน เบื้องต้นพบคำให้การขัดแย้งกับพฤติกรรม


สำหรับการตายของเจ้าเตี้ย สุนัขเพศผู้อายุ 8 ปี ขวัญใจนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังหายตัวไปไร้วี่แววตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 7 พ.ค.มีชาวบ้านพบซากเจ้าเตี้ยถูกนำมาทิ้งไว้ริมป่าละเมาะข้างทาง บริเวณถนนพระนาง หลังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ต.ช่างเคี่ยน อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือก ได้เบาะแสภาพจากกล้องวงจรปิดชายต้องสงสัยที่นำตัวเจ้าเตี้ย สุนัขเพศผู้ อายุ 8 ปี เจ้าตูบสี่ขาขวัญใจนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ออกจาก มช.ไป โดยชายคนดังกล่าวได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาใน มช. เมื่อเวลา 20.34 น.ของวันที่ 3 พ.ค. และเรียกเจ้าเตี้ยขึ้นรถขี่ออกไป กระทั่งพบซากเจ้าเตี้ยถูกทิ้งไว้ที่ริมถนนพระนาง หลังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ขณะที่ผลชันสูตรพบว่า เจ้าเตี้ยร่างกายถูกกระแทกอย่างแรง คาดว่าจะถูกรถชนตาย




ทาง พ.ต.อ. กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก เปิดเผยว่า ทางตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนชัดเจนว่า มีคนนำพี่เตี้ย ออกจาก มช. เมื่อเวลา 20.34 น ของวันที่ 3 พ.ค.และชายดังกล่าวก็ได้เข้าพบกับพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือกแล้ว โดยให้การว่าเป็นผู้นำพี่เตี้ยออกไปจริง และเมื่อมีข่าวตามหาก็เกิดความกังวลใจ จึงได้เข้าพบกับพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก ตามคำให้การของชายที่นำเจ้าเตี้ยออกไปทราบว่า เดิมทีเป็นคนรักสัตว์ และสงสารที่เจ้าเตี้ย ไม่ได้ออกไปไหน จึงขับรถเข้าไปหาคิดจะพาไปเที่ยว จึงนำเจ้าเตี้ย นั่งรถเล่น ออกไปนอกรั้ว มช. อยู่ๆ เจ้าเตี้ย ก็กระโดดลงจากรถขณะขับขี่ ทำให้ล้อหลังทับตายทันที ด้วยความตกใจจึงนำศพไปโยนทิ้งข้างทาง พร้อมโกยใบไม้กลบจากนั้นก็ได้มาพบเป็นข่าวและติดตามข่าวตลอด จนตัดสินใจมาพบตำรวจ ขณะที่กลุ่มแฟนคลับเจ้าเตี้ย แอดมินเพจ เตี้ย มช. และเพจ มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT ไม่เชื่อคำให้การของชายรายนี้

ด้าน พ.ต.ท.จักรกรี วงค์คำ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.ช้างเผือก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมาตำรวจได้เรียกผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ เบื้องต้นให้การว่า เคยเรียนที่นี่และมีความผูกพันกับเจ้าเตี้ย จึงตั้งใจพามันไปเที่ยว แต่เมื่อถึงจุดที่ใกล้กับจุดที่พบซาก เจ้าเตี้ยได้กระโดดลงจากรถจักรยานยนต์แต่ไม่พ้น ทำให้ล้อหลังของรถทับเจ้าเตี้ยจนตาย จึงได้นำศพไปทิ้งที่ป่าละเมาะและนำใบไม้ปิดไว้ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพักไป ผู้ต้องสงสัยยืนยันว่า ไม่มีเจตนาทำร้ายสุนัข เบื้องต้นพนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องสงสัยรายนี้ เพราะคำให้การของทั้งสองฝ่ายยังขัดแย้งกับพยานหลักฐาน จึงต้องเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม รวมทั้งนำรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องสงสัยมาให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่เมื่อสุนัขกระโดดลงจากรถแล้วจะถูกล้อหลังทับจนตาย ขณะเดียวกันก็ต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนด้วยว่า ใครเป็นเจ้าของเจ้าเตี้ย ซึ่งจะเป็นผู้เสียหายในคดีหากมีการตั้งข้อกล่าวหา เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องลงบันทึกประจำวัน ตั้งแต่วันที่พบซากเจ้าเตี้ยเมื่อวันที่ 7 พ.ค.แล้ว แต่การจะรับเป็นคดีก็ต้องสืบสวนหาพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน



ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ต้องสงสัยที่พาเจ้าเตี้ย ออกจาก มช. ไป ทราบคือ ส.ต.ท. สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตชด.) ซึ่งเจตนาที่แท้จริงที่พาเจ้าเตี้ย ออกไปยังคลุมเครือ โดยตำรวจไม่เชื่อคำให้การที่ว่ารักหมา พาหมาออกไปเที่ยว เพราะทิศทางการเดินทางเหมือนเข้าซอย ไปในทางเปลี่ยว และรถที่พาเจ้าเตี้ย ไปคือ รถฮอนด้าคลิ๊ก ปี 2008 ซึ่งเป็นรถต่ำ ไม่มีทางที่จะทับหมาที่โดดลงจากรถได้ อีกทั้งรถที่ตำรวจดังกล่าวใช้ประจำก็ใส่ป้ายทะเบียนทุกวัน แต่วันที่มาพาเจ้าเตี้ย ไปกลับถอดป้ายทะเบียนออก จึงเป็นเหตุน่าสงสัย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำรถไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐานเพิ่มเติม เพื่อจำลองเหตุการณ์ และหาความเป็นไปได้ของเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว