เสนอขายแพ็คเกจแสนล้านแก้สภาพคล่องการบินไทย

2020-05-15 16:30:17

เสนอขายแพ็คเกจแสนล้านแก้สภาพคล่องการบินไทย

Advertisement

"พีรพล" ผู้นำนักศึกษาสมัย 14 ตุลา แนะขายแพ็คเกจ 2 ล้านแพ็คเกจ หาเงินแสนล้านจากนักท่องเที่ยวภายในประเทศเอาเงินในอนาคตมาแก้ปัญหาสภาพคล่องให้กับการบินไทยเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ต้องพึ่งพาภาษีประเทศ

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. นายพีรพล ตริยะเกษม ประธานมูลนิธิสถาบันวิชาการ 14 ตุลา อดีตนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลไทยกำลังแก้ปัญหาวิกฤตการบินไทยว่า สิ่งที่เร่งด่วนที่รัฐบาลควรจะทำ คือการปรับองค์กรให้เล็กลงตามความรู้ความสามารถของพนักงาน เร่งหาสภาพคล่องเน้นการพึ่งพาตัวเองขององค์กรมากกว่าพึ่งพารัฐบาล

นายพีรพล  กล่าวต่อว่า  เห็นด้วยกับการปรับองค์กรที่หลายฝ่ายกำลังพูดถึงโดยเน้นปรับตามความโดดเด่นและจุดแข็งขององค์กรมทั้งด้านการบิน การบริการ การซ่อมบำรุง การผลิตอาหารและการขนส่ง โดยเฉพาะเรื่องความโดดเด่นทางด้านการผลิตอาหาร ขอเสนอให้สร้างเป็นนิคมอุตสาหกรรมอาหารเพื่อเป็นการเน้นธุรกิจอาหารอย่างเต็มระบบ  ส่วนภาคบริการการซ่อมบำรุงการบินไทยมีศักยภาพในเรื่องนี้มาก ขอเสนอให้จัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาโดยร่วมมือกับสายการบินโลว์คอสต่างๆของไทยเพื่อที่จะได้เกิดความร่วมมือและทำให้เกิดการแข่งขันกับต่างประเทศได้

อดีตแกนนำนักศึกษา 14 ตุลา กล่าวอีกว่า จุดแข็งของการบินไทย คือ มีบุคลากรที่ชำนาญการ ส่วนจุดอ่อน คือ การบริหาร และการจัดการซึ่งเราจะปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงที่เป็นฝ่ายการเมือง หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง ตลอดจนบุคลากรที่มีการฝากฝังมา แม้จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ก็สร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ ดังนั้นสิ่งที่ต้องสร้างให้กับการบินไทยในเร็ววัน คือ รัฐบาลตั้งบอร์ดที่มีความเป็นกลางเข้ามาแก้ปัญกาของการบินไทย เปิดให้มีคนหลายฝ่ายเข้าร่วม ไม่ใช่ใครก็ได้มานั่งรับเงินเดือนแพงๆ ที่สำคัญการบินไทยต้องแก้ปัญหาแบบไม่หวังพึ่งรัฐบาลแต่เพียงอย่างเดียว ต้องหวังพึ่งศักยภาพของตัวเองให้มากที่สุด โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดให้ได้

นายพีรพล ยังได้กล่าวถึงปัญหาการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของการบินไทย ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้าว่า ในฐานะที่เป็นลูกค้าของการบินไทย จากประสบการณ์ที่บินร่วมกับการบินไทยและเห็นว่า ทุกเที่ยวบินจะมีที่ว่างโดยเฉลี่ย 30% นั่นคือ การบินไทยขาดรายได้กับที่นั่งว่างเหล่านี้ ถ้าหากจะให้ตนเสนอแนะ ก็ให้นำที่ว่าง 30 เปอร์เซ็นต์ นี้ออกมาขายล่วงหน้า หากการบินไทยต้องการเงินสดมาแก้ปัญหาสภาพคล่อง 1 แสนล้านบาท ก็ทำแพ็คเกจให้ได้ 1 แสนล้านบาท เช่น แพ็คเกจละ 50,000 บาท ก็ขาย 2 ล้านแพ็คเกจ ก็จะได้มีเงินมาแก้ไขปัญหาสภาพคล่องในระยะเวลาอันสั้น

นายพีรพล กล่าวด้วยว่า หลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่าแพ็คเกจที่แนะนำให้คืออะไรในแพ็คเกจ 50,000 นี้เป็นตั๋วเครื่องบินที่มีอายุตั๋วโดยสาร มีอายุ 3 ปี วันเริ่มยังไม่ระบุเพราะวันเริ่มจะชัดเจนเมื่อเรานำเครื่องการบินไทยขึ้นบินอีกครั้ง เมื่อเครื่องการบินไทยขึ้นบินเมื่อไหร่ก็นับวันนั้นเป็นวันเริ่มต้นของอายุตั๋ว โดยตั๋วนี้ไม่ระบุวัน เวลา และชื่อผู้โดยสารที่จะบิน ซึ่งตั๋ว 4 ใบนี้ ใบแรกบินยุโรปประเทศไหนก็ได้ในภาคพื้นยุโรป ใบที่ 2 เดินทางในภาคพื้นเอเชีย ใบที่ 3 และ 4 บินภายในประเทศ เพียงแค่นี้การบินไทยก็จะมีเงินหมุนเวียน 1 แสนล้านทันที

นายพีรพล กล่าวอีกว่า สำหรับแรงจูงใจที่จะทำให้ตัวขายได้เร็ว และผู้ซื้อใช้ตั๋วบินเร็วขึ้นก็อาจจะจูงใจด้วยการเพิ่มมูลค่าของหางตั๋ว เช่น การนำหางตั๋วมาจับรางวัลชิงเงินสด บ้าน รถยนต์ หรืออื่นๆเพื่อให้บรรดาผู้ซื้อแพคเกจแต่อาจจะอยากซื้อแพคเกจหลายใบแล้วรีบบินเพราะหลังจากดินแล้วก็มาจากฉลากตรงนี้ได้

อดีตแกนนำนักศึกษาสมัย 14 ตุลา กล่าวอีกว่า หากมองว่าการขายแพคเกจอาจจะใช้ระยะเวลา เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเจรจากับธนาคารเพื่อเอาเงินจากธนาคารมาแก้ปัญหาสภาพคล่องก่อน และเมื่อขายแพคเกจได้อาจจะใช้เวลาเพียง 2-3 เดือน ก็ส่งเงินคืนธนาคารพร้อมดอกเบี้ยก็ได้ การนำที่นั่งที่ปกติก็ว่างหรือขายไม่ออกมาสร้างให้เกิดมูลค่านี้ไม่ได้สร้างปัญหากระทบในส่วนใดเลย ในทางตรงกันข้ามกับเอาที่นั่งที่ไม่มีมูลค่ามาสร้างให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ต้องหวังไปพึ่งพาแต่ภาษีประเทศชาติ และให้คนทั้งประเทศมานั่งวิตกกังวล

"ผมก็คิดได้แบบบ้านๆแบบนี้แหละถ้าเกิดใครมองว่าดี ก็เอาไปปรับใช้ได้ หรือจะให้ผมไปเป็นที่ปรึกษาด้วยผมก็ยินดี" นายพีรพล กล่าว