ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ยืนยันว่า ทีมเฉพาะกิจไวรัสโควิด-19 ของทำเนียบขาว จะถูกยุบ ซึ่งตามคำแนะนำของนายไมค์ เพนช์ รองประธานาธิบดี อาจยุบภายในไม่กี่สัปดาห์นี้ “เรานำประเทศกลับมาแล้ว” ทรัมป์ กล่าวระหว่างเดินทางไปเยี่ยมโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา
ทรัมป์ยืนยัน ทั้ง ๆ ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสปัจจุบันยังสูงถึงวันละ 20,000 คน และเสียชีวิตอีกเกินวันละ 1,000 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเตือนว่า ไวรัสอาจกลับมาระบาดอีกระลอก เพราะธุรกิจเริ่มเปิดให้บริการอีกครั้ง
ขณะนี้ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อทั่วประเทศแล้วมากกว่า 1.2 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 70,000 คน จากสถิติของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ของสหรัฐที่ติดตามเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสตั้งแต่ต้น
ระหว่างเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย หลังปักหลักอยู่ในทำเนียบขาวหลายสัปดาห์ ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไมค์ เพนช์ และทีมเฉพาะกิจรับมือไวรัสโควิด-19 ทำงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม
อย่างไรก็ตาม ที่น่าสังเกต ประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ยังไม่สวมหน้ากากอนามัยอยู่ดี สวมเพียงแว่นตานิรภัยระหว่างตรวจเยี่ยมโรงงาน เมื่อถูกนักข่าวถามว่า ภารกิจของทีมเฉพาะกิจสำเร็จเสร็จสิ้นแล้วหรือ เขาตอบว่า ไม่ ไม่หรอก ภารกิจจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อการระบาดของไวรัสยุติลงนั่นแหละ
มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ กล่าวหาทรัมป์ว่ายอมเสียสละสุขภาพของชาวอเมริกันเพื่อสนองตัณหาของตนเองในการเปิดเศรษฐกิจของประเทศก่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของตนเองในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยในรัฐแอริโซนาเมื่อวันอังคาร ทรัมป์กล่าวว่า พรรคเดโมแครตกำลังหวังว่า นโยบายแก้ปัญหาไวรัสโควิด-19 ของเขาจะล้มเหลว ดังนั้น พวกเขาก็จะสามารถชนะการเลือกตั้งได้
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาไม่ได้บอกว่าทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ใช่อยู่ มีประชาชนบางส่วนได้รับผลกระทบเลวร้าย แต่เราต้องเปิดประเทศ และเราต้องเปิดโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม มันก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละรัฐ ที่จะพิจารณาเปิดเศรษฐกิจอย่างไร
ผู้ว่าการรัฐที่มาจากพรรคเดโมแครตบางคน ในรัฐที่มีการระบาดของไวรัสรุนแรง ก็ระมัดระวัง เรียกร้องให้มีการตรวจหาเชื้อมากขึ้น และยังคงใช้มาตรการเพื่อความปลอดภัยอื่น ๆ ก่อนผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ส่วนรัฐที่ผู้ว่าการเป็นคนของพรรครีพับลิกันในภาคใต้และแถบมิดเวสต์ เริ่มยกเลิกมาตรการคุมเข้มไปแล้วเรียบร้อย