อิตาลีกลับมาเหมือนเดิม ท่ามกลางความหวาดหวั่นไวรัสระบาดรอบ 2

2020-05-06 10:55:03

อิตาลีกลับมาเหมือนเดิม ท่ามกลางความหวาดหวั่นไวรัสระบาดรอบ 2

Advertisement


ชาวอิตาลีกลับออกมาใช้ชีวิตตามท้องถนนอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่รัฐบาลเริ่มต้นยกเลิกมาตรการล็อคดาวน์ประเทศที่ยาวนานที่สุดในยุโรป และเข้าสู่ “ระยะที่ 2” ของวิกฤตไวรัสโควิด-19 โดยในเมืองเวนิส ซึ่งถนนและตรอกซอกซอยต่าง ๆ ว่างเปล่าไร้ผู้คน จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของวิกฤตไวรัสในยุโรป แต่จัตุรัสเซนต์มาร์ค กลับมาคึกคักเต็มไปด้วยผู้คนอีกครั้ง ขณะที่ พ่อค้าแม่ค้าในท้องถิ่น ก็ได้เวลามารวมตัวกันค้าขายอีกรอบในจัตุรัสแห่งนี้ แถมยังมีกลุ่มผู้ประท้วง ที่จัดโดยพรรค Fratelli d’Italia ออกมาเรียกร้องให้เปิดกิจกรรมทางธุรกิจอีกครั้งทันที

ส่วนในเมืองมิลาน หรือที่ชาวอิตาลีเรียกว่า “เมืองมิลาโน่” ศูนย์กลางแฟชั่นของโลกแข่งกับกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส รถไฟหลายขบวนและชานชาลา กลับมาแออัดยัดเยียดอีกครั้ง โดยเมืองที่มีประชากรกว่า 4 ล้านคนแห่งนี้ คาดว่าจะกลับออกมาทำงานตามโรงงานและสถานที่ก่อสร้างตาง ๆ ขณะที่ผู้คนอีกส่วนหนึ่งก็สามารถออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ และเดินทางไปเยี่ยมญาติพี่น้องได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์



รัฐบาลอิตาลีแถลงว่า หลายแคว้นมีความรับผิดชอบในการรักษามาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมระหว่างการใช้บริการขนส่งสาธารณะ แต่ก็ยังมีบางภาพที่แสดงให้เห็นว่า ประชาชนไม่ได้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

อิตาลี ขยับเข้าสู่ “ระยะที่ 2” ในวันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม หลังจากมีผู้เสียชีวิตเพียง 174 คนเท่านั้นในวันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม ซึ่งเป็นสถิติที่ต่ำสุดตั้งแต่ใช้มาตรการล็อคดาวน์ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม แต่ในวันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม ก็มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 474 คน ส่วนผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 1,389 คน ต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคมเช่นกัน รวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศจนถึงวันอังคารที่ 6 พฤษภาคม อยู่ที่ 213,013 คน และเสียชีวิต 29,315 คน



นายกรัฐมนตรีจุซเซปเป คอนเต ของอิตาลี ประกาศเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งนับจากวันจันทร์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีบางแคว้นดำเนินการเร็ว-ช้า แตกต่างกันออกไป โดยสำหรับมาตรการร “ระยะที่ 2” ทั่วประเทศ กำหนดให้บาร์และร้านอาหาร สามารถเปิดให้บริการลูกค้าซื้อนำกลับบ้านได้อีกครั้ง ในขณะที่สถานที่ก่อสร้างและโรงงานต่าง ๆ ก็ได้รับอนุญาตให้กลับมาผลิตได้อีก ประชาชนได้รับไฟเขียวให้เดินทางไปเยี่ยมญาติ ยกเว้นไปเยี่ยมเพื่อน แต่ต้องอาศัยอยู่ภายในเขตแคว้นเดียวกันเท่านั้น

นอกจากนี้ ทางการยังบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะ ขณะเดียวกัน ก็ให้รัฐบาลในแต่ละแคว้นรับผิดชอบในการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และยังมีบางแคว้นเรียกร้องให้สวมถุงมือด้วย สวนสาธารณะกลับมาเปิดให้วิ่งและออกกำลังกาย ยกเว้นสนามเด็กเล่น และประชาชนต้องรักษาระยะห่าง 3 ฟุตตามคำแนะนำ ขณะเดียวกัน ก็อนุญาตให้ประชาชน 15 คนเท่านั้นร่วมพิธีศพ นายโรเบอร์โต สเปรันซา รัฐมนตรีสาธารณสุขของอิตาลี เรียกร้องให้ชาวอิตาลี ช่วยกันแบ่งเขาภาระและเคารพกฎเกณฑ์ในมาตรการระยะที่ 2 นี้ด้วย

เศรษฐกิจของอิตาลี ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยูโรโซนเมื่อปีที่แล้ว คาดว่าจะหดตัวรุนแรงเป็นประวัติการณ์มากกว่าทุกปี ตั้งแต่สิ้นสุดยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในปีทศวรรษที่ 1930 ผู้ใช้แรงงานกว่าครึ่ง ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล และจำนวนเดียวกันนี้ ก็บอกว่า กลัวที่ต้องกลายเป็นคนตกงาน

ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ในอังกฤษ ออกรายงานชิ้นหนึ่งระบุว่า อิตาลีจะเผชิญหน้ากับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 หลังผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ซึ่งจะสร้างความหายนะมากกว่าเดิม โดยบรรดานักวิจัยของมหาวิทยาลัยในอังกฤษแห่งนี้ ได้ออกแบบจำลอง หรือโมเดลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ใน 3 สถานการณ์ คือคงล็อคดาวน์ไว้ต่อไปก่อน, ชาวอิตาลีใช้ชีวิตปกติประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ และ 40 เปอร์เซ็นต์จากช่วงก่อนล็อคดาวน์



แบบจำลองดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่า แม้หากชาวอิตาลีกลับไปใช้ชีวิตปกติในช่วงก่อนล็อคดาวน์ในระดับเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ไวรัสมรณะก็จะระบาดรอบ 2 คร่าชีวิตผู้คนเพิ่มอีกระหว่าง 3,700-5,000 คน ซึ่งในปัจจุบันนี้ อิตาลีมีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 30,000 คน แต่หากชาวอิตาลีกลับไปใช้ชีวิตเหมือนก่อนช่วงล็อคดาวน์ในระดับ 40 เปอร์เซ็นต์ จำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีกระหว่าง 10,000-23,000 คน อย่างไรก็ตาม หากอิตาลีใช้เวลาในการล็อคดาวน์ต่อไปอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะมีการผ่อนคลาย การติดเชื้อจะลดลงเรื่อย ๆ และตัวเลขผู้เสียชีวิตก็จะลดลง