คณะผู้บริหารกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย ตัดสินใจปรับขึ้นภาษีขายปลีกเหล้า-เบียร์ รวดเดียว 70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันอังคาร (5 พ.ค.) หนึ่งวันหลังจากเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์นาน 6 สัปดาห์ขั้นแรก เหตุจากประชาชนรุมแย่งกันซื้อสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนเกิดความชุลมุนวุ่นวาย จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ
นายอาร์วินด์ เกศรีวัล มุขมนตรีรัฐเดลี ซึ่งครอบคลุมเมืองหลวงกรุงนิวเดลีด้วย เผยเมื่อวันอังคาร (5 พ.ค.) ว่า เนื่องจาก ความวุ่นวายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตามร้านค้าในหลายพื้นที่ ทำให้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ถูกละเมิด ทางการรัฐเดลีจำเป็นต้องประกาศใช้มาตรการฉุกเฉิน “ค่าธรรมเนียมพิเศษไวรัสโคโรนา" ปรับขึ้นภาษีขายปลีกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ เพื่อป้องกันการรวมตัวของคนจำนวนมาก
อินเดียอนุญาตให้ร้านค้าทั่วประเทศ จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เป็นครั้งแรก เมื่อวันจันทร์ (4 พ.ค.) หลังการผ่อนคลายมาตรการปิดประเทศอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมาตรการที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. และถูกขยายเวลา จะครบกำหนดในวันที่ 17 พ.ค.ที่จะถึง
มีรายงานความวุ่นวายจากประชาชนแย่งกันซื้อเหล้าเบียร์ ในรัฐอื่นๆ ด้วย รวมถึงรัฐอานธรประเทศ ทางภาคใต้ ส่งผลให้ทางการรัฐประกาศขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่นกัน แต่รายงานไม่ระบุอัตราเพิ่ม รัฐบาลอินเดียอนุญาตให้ร้านค้าขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ตามเสียงเรียกร้องและแรงกดดันจากทางการท้องถิ่นของรัฐ ซึ่งระบุว่าสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นแหล่งรายได้หลักด้านภาษี แต่การบริโภคและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกฮอล์ ยังเป็นสิ่งงผิดกฎหมายในหลายรัฐอนุรักษ์นิยมของประเทศ เช่น รัฐคุชราต ทางภาคตะวันตก ซึ่งเป็นรัฐบ้านเกิดและฐานเสียงทางการเมือง ของนายนกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี
ทางด้านสถานการณ์ล่าสุด การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในอินเดีย ประเทศประชากร 1,378 ล้านคน นับถึงวันอังคารที่ 5 พ.ค. มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 49,400 คน เพิ่มขึ้น 2,963 คนในระยะ 24 ชั่วโมง เสียชีวิต 1,693 คน เพิ่มขึ้น 127 คน และรักษาหายแล้ว 14,142 คน.