รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศห้ามเที่ยวบินโดยสารจากต่างแดนทั้งหมด ลงจอดสนามบินในประเทศ เป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 3 พ.ค. เพื่อเพิ่มมาตรการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ชาวฟิลิปปินส์ที่ทำงานอยู่ในต่างประเทศ ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้หลายแสนคน
แถลงการณ์ของสำนักงานการท่าอากาศยานมะนิลา หรือ เอ็มไอเอเอ (The Manila International Airport Authority : MIAA) เมื่อวันเสาร์ กล่าวว่า เที่ยวบินโดยสารขาเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด จะถูกห้ามลงจอดในฟิลิปปินส์ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 3 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น จนถึงเวลา 08.00 น. ของวันที่ 10 พ.ค. คำสั่งยกเว้นเที่ยวบินขนส่งสินค้าและพัสดุ เที่ยวบินด้านการแพทย์และมนุษยธรรม และเที่ยวบินที่ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจากรัฐบาลฟิลิปปินส์
อย่างไรก็ตาม หากสายการบินพาณิชย์ใดต้องการนำเที่ยวบินลงจอดในฟิลิปปินส์ ต้องยื่นคำร้องพร้อมชี้แจงเหตุผลที่เหมาะสม ต่อสำนักงานการบินพลเรือน ในกรุงมะนิลา ล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 36 ชั่วโมง
นายคาร์ลิโต กัลเวซ ประธานคณะทำงานเฉพาะกิจต่อต้านไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาลฟิลิปปินส์ เผยว่า เหตุผลหลักของคำสั่งห้ามล่าสุดคือ สถานที่กักตัวชาวฟิลิปปินส์ที่เดินทางกลับจากทำงานหรือท่องเที่ยวในต่างแดน มีไม่พอรองรับได้อีกต่อไป รัฐบาลต้องใช้เวลาในการจัดหาสถานที่เพิ่ม รวมทั้งทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ สถานที่กักตัวที่มีอยู่ในกรุงมะนิลา
คำสั่งล่าสุดทำให้ชาวฟิลิปปินส์หลายแสนคน ที่กำลังพยายามเดินทางกลับบ้าน ต้องติดค้างอยู่ในกว่า 40 ประเทศ ซึ่งเกือบทั้งหมดกำลังเผชิญกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และส่วนใหญ่กลายเป็นคนว่างงาน กลุ่มคนเหล่านี้แสดงความไม่พอใจ ที่รัฐบาลประกาศคำสั่งแบบกะทันหัน ทำให้ไม่สามารถเตรียมรับมือได้ทัน
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีประชากรเดินทางไปทำงานต่างแดนมากที่สุดในโลก การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อชาวฟิลิปปินส์ประมาณ 400,000 คน จากทั้งหมดประมาณ 4 ล้านคน ใน 46 ประเทศ และกลุ่มคนเหล่านี้กำลังพยายามเดินทางกลับบ้าน หลายคนแสดงความไม่พอใจ ที่รัฐบาลประกาศคำสั่งแบบกะทันหัน ทำให้ไม่สามารถเตรียมรับมือได้ทัน
ทางด้านแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า มีชาวฟิลิปปินส์ที่เดินทางไปท่องเที่ยว หรือทำงานในต่างแดน เดินทางกลับประเทศก่อนหน้านี้แล้วกว่า 24,000 คน.