โปรดฟังอีกครั้ง ผ่อนคลายให้กิจการ ชาวบ้านให้ตึงต่ออีก28 วัน

2020-05-03 21:20:52

โปรดฟังอีกครั้ง ผ่อนคลายให้กิจการ  ชาวบ้านให้ตึงต่ออีก28 วัน

Advertisement



3 พ.ค.63 เป็นวันที่มีข่าวดีอย่างมากในรอบสองเดือนของสถานการณ์โควิด-19 ด้วยการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 3 คน ผู้ติดเชื้อสะสมรวม 2,969 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม

เป็นตัวเลขต่ำสิบติดต่อกันเป็นวันที่เจ็ด


ที่รักษาหายเพิ่มอีก 7 คน ยอดรวม 2,739 คิดเป็น 92.25% เหลือที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล 176 คนหรือ 5.93%ของทั้งหมด


ผู้ติดเชื้อใหม่ทั้ง 3 เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยรายก่อน 2 ราย เป็นคนในครอบครัว อีกราย เป็นคนไทยที่เดินทางจากประเทศมาเลเซีย เข้ากักตัวที่ จ.นราธิวาส




ข้อมูลนี้ เป็นการย้ำว่า การมีผู้ป่วยอยู่ในบ้าน และคนในครอบครัว เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสแพรเชื้อ หากขาดความระมัดระวัง ละเลยการรักษาระยะห่าง การล้างมือและสวมหน้ากากอนามัย


ขณะเดียวกันมีรายงานว่า จังหวัดยะลา พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 40 คน จากการตรวจค้นเชิงรุก แต่ต้องตรวจสอบซ้ำเนื่องจาก บางจุดมีการติดเชื้อมากกว่า 30%ของคนที่รับการตรวจ ซึ่งผิดสังเกต


เห็นได้ว่า แม้ผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่หากตรวจค้นหาให้มากขึ้น ก็มีโอกาสพบเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นที่ย้ำกันว่า การคลายล็อกขาดความระมัดระวัง โควิด ระลอกใหม่จะกลับมาและแก้ไขได้ยาก ไม่ใช่คำขู่ เพราะความเสี่ยงจะเกิดขึ้นมีได้ไม่ยาก


พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หัวหน้าศูนย์ ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กล่าวเตือนสติระหว่างการแถลงข่าวว่า “การผ่อนคลายมาตรการที่เคยปิดให้มาเปิดได้ ไม่เคยมีคำแนะนำให้ผ่อนคลายความเข้มงวดที่เคยมีต่อตัวเอง”




ทั้งไม่แนะนำการเดินทาง ข้อกำหนดที่รัฐบาลได้ประกาศออกมา ให้งดหรือลดการเดินทางข้ามเขตจังหวัด เว้นแต่มีเหตุจำเป็นและต้องแสดงหลักฐาน รวมทั้งมาตรการที่เข้มข้นทั้งจุดตรวจทั้งหลายของรัฐทั้งไปและกลับ


สิ่งที่ฝ่ายความมั่นคงย้ำก็คือ ผู้ประกอบการต้องจัดทำตามมาตรการที่กำหนด ได้แก่ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสตลอดเวลา ให้มีการสวมหน้ากากอนามัย มีเจลหรือสบู่ล้างมือ เว้นระยะห่าง และลดความแออัดของสถานที่ โดยแต่ละจังหวัดจะจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจ ให้คำแนะนำ หากพบความบกพร่องก็ตักเตือน แต่ยังฝ่าฝืนก็ต้องสั่งปิด




ประชาชนพบเห็นสถานประกอบการใด ไม่มีมาตรการเพียงพอต่อความปลอดภัย ไม่มีเครื่องมือทำความสะอาด ก็เรียกร้องจากเจ้าของ หรือแจ้งยังช่องทางสายด่วนของกทม. 1555 หรือ ศูนย์ร้องเรียน ร้องทุกข์ 1111





พล.อ.พรพิพัฒน์ระบุว่า มาตรการผ่อนคลาย เริ่มวันที่ 3 จนถึง 31พ.ค.รวม 28 วัน เท่ากับการประเมินรอบ 14 วัน2 ครั้ง ตามเงื่อนไขทางการแพทย์ คือระยะแสดงอาการของโรคถ้ามี ถ้าวันหยุดประชาชนไม่เดินทาง ทุกคนอยู่บ้าน สถานที่ทำการสนับสนุนการทำงานที่บ้าน เวิร์ก ฟรอมโฮม เหลื่อมเวลาทำงาน ก็จะประคองตัวเลขผู้ป่วยได้


ส่วนการตั้งด่านตรวจระยะต่อไปก็จะลดลง และไปเพิ่มการประเมินความพร้อมของสถานประกอบการใน 28 วันนี้ให้เข้มข้น


การผ่อนคลายให้เปิดกิจการร้านค้าบางประเภทได้ อาจทำให้คนกลุ่มหนึ่งหลงเข้าใจว่า สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ไม่ต้องเป๊ะนักก็ได้



ขณะที่ฝ่ายผู้รับผิดชอบด้านสาธารณสุขก็ยังมีข้อสังเกตการฝ่าฝืนข้อห้ามที่มีอยู่ทุกวัน การผ่อนปรนให้เปิดจำหน่ายสุรา อาจทำให้เกิดการตั้งกลุ่มสังสรรค์ วงเหล้า หมูกระทะ



เห็นได้จากวันแรกของการเปิดขายเหล้า ชั้นจำหน่ายสุราในซูเปอร์มาร์เก็ต ศูนย์ค้าส่งบางแห่งก็หายวับอย่างฉับไวราวกับระเหยไปซะอย่างงั้น

สงสัยกลัวจะอดอีก 28 วัน