11+42 แผนตรวจเชิงรุกออกฤทธิ์ เจอยกโขยงศูนย์กักคนลอบเข้าเมือง

2020-04-25 21:00:03

11+42 แผนตรวจเชิงรุกออกฤทธิ์   เจอยกโขยงศูนย์กักคนลอบเข้าเมือง

Advertisement





รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ วันที่ 25 เม.ย.63 เพิ่มขึ้น53 คน




เป็นตัวเลขที่ชวนอึ้ง โดยเฉพาะกองเชียร์ที่ปลื้มกับสถิติต่ำกว่า20 มาตั้ง3-4 วัน


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ขยายความว่า จำนวน 53 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ พบจากรายงานปกติประจำวัน 11 อีก 42 จากการตรวจเชิงรุก หรือ active case finding กับกลุ่มแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งควบคุมอยู่ที่ศูนย์กักกันคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ. สงขลา


ใน 42 คน จำแนกเป็นชาวเมียนมาร์ 34 เวียดนาม 3 มาเลเซีย2 เยเมน1 กัมพูชา1 และอินเดีย1


ท่านโฆษกบอกเป็นการทำตามนโยบายเฝ้าระวังเชิงรุกกับแรงงานต่างด้าว เพื่อป้องกันการระบาดทำนองเดียวกับที่เกิดในประเทศสิงคโปร์




มีรายงานข่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ของด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา 6 นายติดเชื้อโควิด-19 จนต้องปิดด่าน ทางสาธารณสุขจังหวัดสงขลาเข้าสอบสวนโรคและทราบว่าเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเคยเข้าเวรที่ห้องกักนี้ จึงมีการขยายผล ตรวจคัดกรองต่างด้าวที่กักกันทั้งหมด 47 คน และพบติดเชื้อ 42


ขณะนี้ทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการตรวจเอ็กซเรย์ปอด เบื้องต้นแข็งแรงดี


ส่วนจำนวน11 รายนั้น เป็นการพบจากการตรวจเชิงรุกใน จ.ยะลา 7 คน ที่ กทม.2 คน จ. ชลบุรีและภูเก็ตแห่งละ1 คน


ผู้ติดเชื้อสะสมจึงเป็น2,907 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม1 รวม 51 ราย


ผู้เสียชีวิตวันนี้ เป็นชายวัย48 มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยจำนวน 4 ราย ซึ่งเป็นคนในครอบครัว


ส่วนจำนวนที่รักษาหายแล้ว 2,547 ราย (87.62%) เพิ่มขึ้น 57 ราย


แม้ผู้ติดเชื้อวันนี้จะโด่งขึ้นมาผิดหูผิดตา แต่ก็สืบสาวได้ว่า มาจากกลุ่มก้อนใด ดังนั้นเชื่อว่า ไม่น่าเป็นอุปสรรคกับการผ่อนปรน กระทรวงสาธารณสุขจึงเดินเดือนหน้าวางแนวทางเพื่อเป็นมาตรการให้กิจการที่จะเปิดต้องจะทำ




มีการจัดทำแนวทางขอแต่ละสถานประกอบการ เช่น คลินิกเสริมความงาม ขั้นเตรียมตัว ซึ่งต้องทำแต่บัดนี้ มี3 ขั้นตอน 1.สถานประกอบการ ต้องทำความสะอาด จัดสถานที่เว้นระยะห่าง จัดจุดพื้นที่ภายนอกหรือส่วนแยก (Isolate area) เพื่อคัดกรอง เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดให้เพียงพอ


2.ผู้รับบริการ ต้องสวมหน้ากาก ล้างมือ ปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานพยาบาล


3.ผู้ให้บริการ ต้องจัดทำเวชระเบียนเพื่อซักประวัติผู้รับบริการ ให้บริการแบบ 1 คน ต่อแพทย์ พยาบาล 1 คนเท่านั้น และจัดเตรียมห้องทำหัตถการแยก ห้องละ 1 คน ช่วงให้บริการ เน้นการคัดกรอง วัดอุณหภูมิต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ล้างมือและสวมหน้ากากตลอดเวลาที่เข้ารับบริการ หากพบภาวะเสี่ยงต้องรายงานและส่งต่อรักษาทันที ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์หลังใช้งานและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ทำความสะอาดพื้นที่และจัดเก็บขยะทุกครั้ง


กิจการสปา นวดเพื่อเสริมความงามและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ก็ต้องเตรียมสถานที่และบุคลากรในแนวทางเดียวกับคลินิกความงาม ทั้งการคัดกรอง ซักประวัติ เว้นระยะห่าง จัดห้องนวด 1 คนต่อห้อง ถ้าห้องรวมจะต้องเว้นหรือมีผ้าปิดกั้น ผู้ให้บริการและผู้รับบริการนวดต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลก่อนและหลังให้บริการแต่งกายรัดกุม ไม่ใช้สิ่งของ เช่น แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อน ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น


ต้องจัดการขยะติดเชื้อแยกเฉพาะโดยเฉพาะหน้ากากอนามัย ทิชชูที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก ต้องเก็บใส่ถุงมิดชิด โดยแต่ละแห่งจะถูกตรวจสอบความพร้อมก่อนเปิดให้บริการ


กรมอนามัยก็สร้างแพลตฟอร์ม THAISTOCOVID (stocovid.anamai.moh.go.th) เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งร้านอาหาร โรงแรม ร้านเสริมสวย ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ประเมินความพร้อมก่อนเปิดให้บริการ


ประชาชนทั่วไปก็สามารถตรวจสอบและช่วยรายงานข้อมูลกลับมาด้วยว่าสถานประกอบการแต่ละแห่งปฏิบัติตามมาตรการคัดกรอง เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อพัฒนามาตรฐานรองรับสถานบริการและประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบไปพร้อมกัน




หลังโควิด วิถีชีวิตใหม่ ทำให้ทุกคนมีหน้าที่เพื่อสร้างสุขอนามัยที่ดีแก่กันและกัน