รายงานผู้ติดเชื้อใหม่ในวันที่ 24เม.ย.63 มี 15 คน ยอดสะสม 2,854 ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม จึงคงอยู่ที่ 50 ราย
ผู้ป่วยกลับบ้านได้อีก 60 ราย รวมทั้งหมด 2,490 ราย (87.25 %ของผู้ป่วยทั้งหมด) นอนอยู่โรงพยาบาล 314 ราย หรือ 11%ของผู้ป่วยทั้งหมด
ไม่มีผู้ป่วยที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ติดต่อกันเป็นวันที่ 6 แล้ว ผู้ติดเชื้อใหม่ส่วนใหญ่สัมผัสผู้ป่วยคนก่อน กับไปสถานที่ชุมนุมชน ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว อีก 4 รายพบจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน ที่จ.ยะลา
วันนี้ แทนการลุ้นจำนวนผู้ป่วยใหม่ คนส่วนหนึ่งเฝ้าหน้าจอ รอข่าวดีว่าจะมีน้อยกว่าวันวานสักกี่คน ส่วนใหญ่อยากได้เลขตัวเดียว สถิติการลดลงของผู้ป่วยใหม่ เป็นเลข 2 หลัก ต่ำกว่า 60 ติดต่อกัน 16 วันมาแล้ว และต่ำกว่า 20 รวม 4 วัน ตั้งแต่ 21-24เม.ย.63 ขณะที่การระบาดทั่วโลก ผู้ป่วย 2,715,614 ราย เสียชีวิต 190,422 ราย ดูกราฟแสดงผู้ป่วยใหม่ ผู้ป่วยสะสม และคนที่รักษาหายกลับบ้านได้ของไทย จะเห็นความงาม เส้นสีแดง แสดงรายใหม่ อยู่ในแนวราบติดพื้น จำนวนผู้ป่วยนอนรับการรักษา เส้นสีฟ้าเป็นรูปเนินเขากำลังโค้งต่ำลงใกล้จดพื้น ที่รักษาหายให้กลับบ้าน เส้นสีเขียวทะยานสูงชันไล่ตามยอดผู้ป่วยสะสม ใกล้จะทันกันอยู่แล้ว เทียบกับข้อมูลการตรวจค้นหาเชิงรุก (Active case finding) ย่านบางเขน 1,876 ราย พบเพียง 1 ราย เมื่อ 17เม.ย.63 เป็นชายอายุ 51 อาชีพขับรถเมล์ ขสมก.ส่งรักษาโรงพยาบาลและตามไปตรวจอีก 4 คนในครอบครัว ไม่มีใครติดเชื้อ ก็น่าจะทำให้เชื่อว่า การจัดการปัญหาโดยรวมลงตัว หรือมาถูกทาง ด้วยข้อมูลที่ชวนให้เบาใจในสถานการณ์ ประกอบกับความอึดอัดของผู้คนที่ช่วยกันหยุดเชื้ออยู่บ้านมาหนึ่งเดือนเต็ม เป็นภาวะที่รัฐบาลจำต้องผ่อนคลาย มีรายงานว่ากระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เริ่มประสานหาทางให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีทางออก ภายใต้ข้อจำกัด การระมัดระวังเผลอพลั้งให้เชื้อปะทุขึ้นมาได้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา2019 กล่าวตอนหนึ่งว่าระหว่างการแถลงข่าวประจำวันว่า ต่อจากนี้ สิ่งที่เรียกว่า “นิว นอร์มัล (new normal” หรือชีวิตวิถีใหม่ เป็นแนวทางปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ใส่หน้ากากเพื่อป้องกันโรค ปรับธุรกิจให้ทันสถานการณ์ วิถีชีวิตใหม่จะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับการออกแบบ ทั้งตนเอง ครอบครัว การงาน เพื่อให้มีความสุขไปด้วยกัน นั่นคือ ไม่ว่าจะดำเนินชีวิต ทำธุรกิจใด ๆ ต้องสร้างวิถีใหม่ ที่สอดคล้องกับแนวทางเพื่อสุขอนามัยที่ดี เช่นการมีระยะห่างทางกายภาพจะกลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า กรมการแพทย์ได้กำหนดรูปแบบนิวนอร์มัลในการดูแลรักษาทางไกลระบบวิดีโอคอล และส่งยาทางไปรษณีย์ เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล กับผู้ป่วยที่เคยรับการรักษาอยู่แล้วระยะหนึ่ง คุ้นเคยกับแพทย์ พยาบาล ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มีโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคเกี่ยวกับกระดูก ระบบประสาท มะเร็ง ที่อาการและการใช้ยาคงที่แล้ว ทั้งไม่ใช่ผู้ป่วยฉุกเฉิน การดูแลรักษาผ่านทางวิดีโอคอล ทำให้คนไข้โต้ตอบกับแพทย์ได้ เคลื่อนไหว ยกแขน ขาให้แพทย์สังเกตอาการได้ ที่ผ่านมา ได้นำร่องแล้ว กับโรงพยาบาลในสังกัด มีผู้ป่วยรับบริการแล้ว 4,316คนหรือเฉลี่ยวันละ 200 คน มีคนไข้ที่รับยาทางไปรษณีย์ 6,717 คนเฉลี่ยวันละ 363 คน ทั้งได้ขยายบริการนี้ไปยังโรงพยาบาลต่างจังหวัดแล้วบางแห่ง นอกจากนี้ ยังมีบริการให้คำปรึกษาทางไกลกับแพทย์ในถิ่นห่างไกล ในคนไข้บางกรณีที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญแนะนำการรักษา ช่วยลดภาระการส่งต่อคนไข้มายังส่วนกลาง โดยไม่มีค่ารักษาพยาบาลเพิ่ม วิถีชีวิตใหม่ จึงไม่ใช่เพียงคำพูดหรูๆ ฟังดูดี แต่ได้เริ่มขึ้นแล้ว แบบเดิม ๆ ยึดไว้ไม่ได้หรอก โควิดเอาตาย!!
