ผู้ว่าฯ ปัตตานี สั่งเจ้าหน้าที่ด่านยกระดับคัดกรองเข้มงวด หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งอยู่ในห้วงคนไทยกำลังเดินทางกลับจากมาเลเซีย
จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ที่ได้แพร่ระบาดของโรคในหลายอำเภอของ จ.ปัตตานี และพบว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยอย่างรวดเร็วทำให้มียอดทั้งหมดของ จ.ปัตตานี รวม 88 รายแล้ว มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งขณะนี้ผู้ติดเชื้อครอบคลุมไปในพื้นที่ 35 หมู่บ้าน ใน 10 อำเภอ
วันที่ 19 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.ปัตตานีได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าด่านทุกด่านใน จ.ปัตตานีต้องทำการสกัดและป้องกันเชื้อโรคเข้าพื้นที่อย่างเข้มงวด โดยมีการตั้งด่านจังหวัด ด่านอำเภอ และด่านประจำหมู่บ้าน เพื่อการสกัดและคัดกรองคนที่เป็นและมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 และให้ใช้มาตรการห้ามบุคคลออกจากบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ผู้มีโรคประจำตัว ที่เสี่ยงติดโรคได้ง่าย อีกทั้งการสกัดและห้ามบุคคล ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย บุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงภัย การสกัดและชะลอการเดินทางที่มากันเป็นกลุ่มคณะ นอกจากนี้ให้เจ้าหน้าที่ทุกนายสร้างความรู้แนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 แก่ประชาชน
อย่างไรก็ตาม กรณีพบว่าประชาชนมีไข้หรือมีประวัติเกี่ยวข้องหรือมีการสัมผัสผู้ติดเชื้อ ให้เจ้าหน้าที่นำตัวแยกไปยังสถานที่ที่จังหวัดได้เตรียมไว้ เพื่อทำการตรวจเชื้อ และกักกัน 14 วัน โดยให้มีการสอบสวนโรค ค้นหาแหล่งที่มา และผู้สัมผัสคนติดเชื้อโรคอย่างละเอียด และเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป
ขณะเดียวกันได้มีการตรวจเข้ม ซึ่งอยู่ในห้วงของคนไทยที่กำลังเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียที่ทยอยเดินทางเข้าสู่ จ.ปัตตานี เกรงว่าจะมีการลักลอบเข้ามายังปัตตานีโดยไม่ผ่านการตรวจคัดกรอง หรือไม่ไปสถานที่คัดกรองของจังหวัดที่ได้เตรียมสถานที่ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยได้จ้ดเจ้าหน้าที่ให้ดูแลผู้คนที่เดินทางกลับจากมาเลย์โดยการรับคนที่หน้าด่านพามายังสถานที่คัดกรองจังหวัด เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19ในชุมชนต่อไป