ยูเอ็นโวยเมียนมา ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮีนจา

2017-09-12 12:10:59

ยูเอ็นโวยเมียนมา ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮีนจา

Advertisement


ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนยูเอ็น ประณามกองทัพเมียนมา กวาดล้างชาวโรฮีนจา เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ส่วนชาวโรฮีนจา ยังอพยพต่อเนื่อง

เซอิด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ แถลงเมื่อวานนี้ว่า การปฏิบัติการของกองทัพเมียนมาในการกวาดล้างชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮีนจา ดูเหมือนจะเป็นตัวอย่างบทเรียนของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อย พร้อมประณามการปฏิบัติการอันป่าเถื่อนของกองทัพเมียนมาต่อชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในรัฐยะไข่ ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะรัฐบาลเมียนมาปฏิเสธการเข้าถึงพื้นที่
เซอิด กล่าวในแถลงการณ์เปิดการประชุมมนตรีด้านสิทธิมนุษยชนครั้งที่ 36 ว่า เมื่อปีที่แล้ว เขาได้เตือนเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวโรฮีนจาครั้งเลวร้าย อย่างแพร่หลายและเป็นระบบ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเข้าข่ายการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ทั้งนี้ มีชาวโรฮีนจาอย่างน้อย 313,000 คน หลบหนีความรุนแรงในรัฐยะไข่ข้ามพรมแดนเข้าสู่บังกลาเทศ ตั้งแต่ความรุนแรงปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ไปรวมกับชาวโรฮีนจา 4 แสนคนที่อาศัยอยู่ในค่ายผู้อพยพก่อนแล้ว



   


ขณะเดียวกัน ยังมีชาวโรฮีนจาหลายร้อยคน อพยพออกจากเมียนมา ขึ้นฝั่งเกาะแห่งหนึ่งในภาคใต้ของบังกลาเทศเมื่อวันจันทร์ โดยมีบางคนถึงกับหมดแรงเมื่อเดินทางถึงฝั่ง เนื่องจากป่วยและร่างกายขาดน้ำ หลังเดินทางข้ามแม่น้ำนาฟ กั้นพรมแดนของ 2 ประเทศ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เรือไม้ ความยาว 5 เมตร ซึ่งปกติจะใช้หาปลาในอ่าวเบงกอล นำพาชาวโรฮีนจาประมาณ 50 คนและสิ่งของจำเป็น เดินทางข้ามปากแม่น้ำนาฟระยะทาง 5.7 กิโลเมตรอย่างทุลักทุเล


นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ชาวโรฮีนจาเหยียบกับระเบิดที่ทหารเมียนมาฝังไว้ ขณะหลบหนีความรุนแรง โดยหนึ่งในจำนวนผู้เคราะห์ร้าย เป็นเด็กชายวัย 15 ปี สูญเสียขาทั้ง 2 ข้าง พักรักษาตัวอยู่ในบังกลาเทศ นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายคนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล




กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน และชาวโรฮีนจาที่หลบหนีออกจากพื้นที่ กล่าวว่า กองทัพและกลุ่มทหารอาสาในรัฐยะไข่ ร่วมกันเผาบ้าน เพื่อขับไล่ชาวโรฮีนจา ซึ่งมีประชากรประมาณ 1.1 ล้านคน