"พล.อ.ประวิตร" สั่งล่าตัวคนเผาป่าดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ลั่นคุมไม่ได้อาจต้องปิดป่าในฤดูร้อนของทุกปี
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปราชการ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามรับทราบความคืบหน้าการแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ 9 จ.ภาคเหนือตอนบน ณ ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก จ.เชียงใหม่ โดยสรุปสถานการณ์โดยรวม 9 จังหวัดดีขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ 3 เม.ย.63 จุดความร้อนลดลง 80 เปอร์เซ็นต์ ค่า PM 2.5 ลดลงทุกวัน จุดความร้อนส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ พื้นที่ทุรกันดารและยากแก่การเข้าถึงโดยเฉพาะพื้นที่สูง โดยได้รับการสนับสนุนอากาศยานในการดับไฟและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมากขึ้น ยังมีการเผาพืชไร่และการเผาป่าจากการเข้าไปหาของป่า โดยมีคดีไฟป่าสะสม 644 คดีภาพรวม ผู้ต้องหาสะสม 15 ราย
พล.ท.คงชีพ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ 9 จังหวัดภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 และทุกหน่วยงานที่ได้ทุ่มเทการปฏิบัติงานร่วมกันจนสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ โดยสั่งการย้ำขอให้กระทรวงมหาดไทยโดยผู้ว่าราชการทุกจังหวัด เป็นแกนระดมสรรพกำลังและทรัพยากรที่มีทั้งหมด เร่งดับไฟให้สนิทโดยให้ใช้ความระมัดระวัง และขอให้ใช้กลไกระดับหมู่บ้าน ตำบล โดยเฉพาะประชาคมหมู่บ้าน ให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชน ร่วมเฝ้าระวังและจัดชุดดับไฟขั้นต้น จับตากลุ่มเสี่ยงอย่างใกล้ชิด สำหรับผู้รับสิทธิ์ใช้ประโยชน์พื้นที่ป่า หากพบมีการเผาในพื้นที่ให้ระงับสิทธิ์ทันที พร้อมทั้งให้ถอดบทเรียน กำหนดมาตรการป้องกันเพื่อมิให้เกิดปัญหาในแต่ละพื้นที่อีก และสั่งการให้สนับสนุนให้มีกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนรักษาป่าในทุกพื้นที่อย่างเข้มแข็งต่อเนื่องกันไปอย่างยั่งยืนทั้งนี้ ให้ทุกหน่วยคุมเข้มและบังคับใช้กฎหมายในความรับผิดชอบอย่างจริงจัง หากไม่ดำเนินการถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะต้องร่วมกันหาตัวผู้กระทำผิดในแต่ละพื้นที่ให้ได้ เพื่อเร่งฟ้องและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมกันนี้ ขอให้เข้าไปช่วยเหลือดูสุขภาพประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องให้ทั่วถึงด้วย และประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจการอนุรักษ์ป่าควบคู่กันไป สำหรับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ขอให้ประสานประเทศเพื่อนบ้านแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดนให้เป็นผลในระยะยาว พร้อมกับเร่งสำรวจความเสียหายและฟื้นฟูผืนป่า สัตว์ป่าที่ได้รับผลกระทบ โดยให้ความสำคัญพิจารณาทบทวนมาตรการป้องกันและควบคุมต่างๆให้รัดกุม หากคุมไม่ได้ เกิดปัญหาซ้ำซาก สร้างความเดือดร้อนเสียหายเป็นวงกว้างเช่นทุกปี อาจจำเป็นต้องปิดป่าฤดูร้อนก็ต้องทำ พร้อมย้ำว่า ต้องไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับสาเหตุการเกิดไฟป่าเป็นอันขาด
ต่อจากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครและจิตอาสา บริเวณ เชิงดอยสุเทพ โดย พล.อ.ประวิตร’ ได้กล่าวขอบคุณการปฏิบัติงานของทุกฝ่าย ที่เสียสละร่วมเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้ไฟป่าที่ผ่านมา และย้ำขอให้ดูแลความปลอดภัยตนเองและการช่วยเหลือกันและกันในการปฏิบัติงาน พร้อมมอบถุงยังชีพและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้กับเจ้าหน้าที่ในการทำหน้าที่ต่อไป