เป็นข่าวดี มีเลขสวยต่อเนื่องเป็นวันที่สอง กับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เพียง 38 คน ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 2,258 คน
ผู้เสียชีวิตเพิ่ม1 ราย รวม 27
ขณะที่ยอดรวมทั่วโลก ผู้ติดเชื้อสะสม 1.34 ล้านคน เสียชีวิตไปแล้ว 7.45หมื่น!
ผลย่อมเกิดแต่เหตุ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค) ชี้ว่า 3 ปัจจัยที่ช่วยคุมการแพร่ระบาดในประเทศ ได้แก่ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและเคอร์ฟิว ห้ามนอกบ้านช่วงสี่ทุ่มหนึ่งตีสี่ ประกอบกับความร่วมมือของประชาชนในการเว้นระยะห่างทางสังคม ตลอดจนการควบคุมภายในจังหวัด และกลุ่มเสี่ยงให้มีสถานที่รองรับที่ชัดเจน มีข้อสงสัยว่า จำนวนที่ลดลง เพราะตรวจน้อยหรือประสิทธิภาพการตรวจหย่อนไปมั๊ย มีคำอธิบายว่า ปัจจุบันยอดตรวจรวม 71,860ราย และพยายามหาวิธีตรวจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ทั่วประเทศตรวจได้วันละ 2 หมื่นคน ครึ่งหนึ่งใน กทม.และปริมณฑล อีกครึ่งเป็นต่างจังหวัด แต่ความพยายามเพิ่มจำนวนการตรวจ ก็เชื่อว่าอาจจะพบผู้ป่วยมากขึ้น จึงต้องเตรียมเตียงให้พร้อม เพื่อรองรับตั้งแต่อาการน้อย จนถึงรุนแรง เช่นมีเครื่องช่วยหายใจให้เพียงพอ สำหรับผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้น กระจายอยู่ 9 จังหวัด ส่วนใหญ่ 25 รายอยู่ กทม.ชลบุรี 4 ภูเก็ต 3 กระบี่ ชุมพร นครราชสีมา นนทบุรี พิษณุโลก สุพรรณบุรี จังหวัดละหนึ่งราย จำนวนผู้ป่วยสะสม ขณะนี้ กทม.ยังครองแชมป์สูงสุด ตามด้วยภูเก็ต นนทบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี ยะลา ปัตตานี เชียงใหม่ มี 11 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานการรับรักษาผู้ป่วย สัดส่วนผู้ติดเชื้อใน กทม.กลับมาเป็น 52%ส่วนต่างจังหวัดเป็นส่วนน้อย44%
เส้นกราฟแสดงจำนวนผู้ติดเชื้อในอาเซียนเริ่มเห็นแววกดตัวต่ำลงเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์บนเฟซบุ๊กว่า แม้แนวโน้มจะดีกว่าหลายประเทศ แต่ธรรมชาติของโรค อัตราการเพิ่มการกระจายโรค ผู้ป่วย 1 คนจะกระจายได้ 2.5 คน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา การกระจายอยู่ที่1ต่อ 1.5 ลดลงจากการกระจายธรรมชาติ แต่ก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ต้องให้เหลือ 1 หรือน้อยกว่า โรคจึงจะลดและค่อยหมดไป คุณหมอเห็นว่า การเติมตัวเลขการระบาด ส่วนหนึ่งจากผู้ที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรป อเมริกาและเพื่อนบ้าน ดังนั้น มาตรการที่เข้มแข็งและจัดการอย่างเคร่งครัด จึงจำเป็น ประชาชนทุกคนก็ต้องให้ความร่วมมือ
การเพิ่มขึ้นที่ลดลงครั้งนี้ มีแต่เสียงชื่นชมยินดี ไม่มีเหน็บแนมย้อนแย้งใดๆ ส่วนหนึ่งเพราะเป็นการไหลลงโดยลำดับจาก102 เป็น51 จนถึง38