ถือเป็นข่าวดีเกี่ยวกับโควิด-19 เป็นครั้งที่ 2 แบบ 2 วันติด ในรอบกว่าสองสัปดาห์ จากการแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ถึงจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ วันที่ 7 เม.ย. มี 38 คน ทำให้ยอดสะสมเป็น 2,258 คน โดยเมื่อวาน วันที่ 6 เม.ย. มีผู้ป่วยเพิ่ม 51 ราย ในจำนวนผู้ติดเชื้อ เป็นกลุ่มที่สัมผัสกับผู้ป่วย อีกกลุ่มเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ สัมผัสผู้เดินทางจากต่างประเทศ เป็นผู้มีอาชีพเสี่ยง รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ สำหรับผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 เม.ย. จำนวน ทั้ง 3 ราย ต้องให้ความสนใจ รายแรกชายอายุ 28 ปี เข้าโรงพยาบาลด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ รายที่สอง ชายไทยอายุ 51 มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง มีภาวะอ้วน ในครอบครัวมีคนติดเชื้อโควิด-19 เข้าโรงพยาบาลด้วยอาการไอ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ หนาวสั่น รายที่สามเป็นหญิงไทยอายุ 59 อาชีพค้าขาย มีประวัติไปในที่แออัด มีโรคประจำตัว เบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับภาวะเลือดเป็นกรด เข้าโรงพยาบาลด้วยอาการหอบเหนื่อย น้ำตาลในเลือดสูง ส่วนผู้เสียชีวิตในวันนี้ จำนวน 1 ราย เป็นชาย อายุ 50 กว่า มีอาการปอดอักเสบ ไม่มีโรคประจำตัว มีประวัติสังสรรค์ย่านทองหล่อ จะเห็นว่า นอกจากโรคเบาหวานจะมีความเสี่ยงสูง การไปในที่แออัด การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ก็อันตรายไม่น้อยหน้ากัน ที่สำคัญ อายุน้อยก็ไม่ได้รับการยกเว้น จำนวนการติดเชื้อใหม่เพิ่มเพียง 38 เป็นเป้าหมายที่คุณหมออยากเห็น โดยตัวเลข 50 ราย เคยมีขึ้นวันที่ 20 มี.ค.63 ผ่านมาแล้ว 16 วัน แต่การที่สถิติลดจาก ลงตั้งครึ่ง เป็นเพียงข่าวดีที่ต้องรอดูวันต่อ ๆ ไป เพราะยังมีผู้ที่รอการยืนยันผลการตรวจเชื้ออีกกลุ่มหนึ่ง การหลีกเลี่ยงไม่เสี่ยงไปติดเชื้อจึงเป็นทางแห่งลาภอันประเสริฐ ซึ่งจะช่วยให้จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ไม่เพิ่มขึ้น และไม่ทำให้ตัวเลข 38 เป็นความสำเร็จที่ดีใจได้แค่วันเดียว
พร้อมกัน มีข่าวที่ไม่อยากฟัง ผู้เสียชีวิตเพิ่มในวันนี้ 1 ราย กับ เมื่อวาน อีก 3 รวม 27 ราย
ส่วนผู้เสียชีวิต 3 ราย เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่เป็นเท่าตัว ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ อธิบายว่าไม่น่าจะมีนัยอื่นใด เพราะการเสียชีวิตเกิดจากการติดเชื้อสะสมช่วงที่ผ่านมา โดยเฉลี่ย หากมีอาการหนักมาก ก็มักจะเสียชีวิตใน 2-8 สัปดาห์