รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 1 เมษายน 2563 มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 120 คน ทำให้มียอดสะสมขึ้นไปเป็น 1,771 มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวม 12 ราย
ด้านสัดส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ระหว่างกรุงเทพฯกับต่างจังหวัด วันนี้ มีการเปลี่ยนแปลง ต่างจังหวัดลดเหลือ 42% ทั้งที่วันวานยัง 52% แต่ที่เมืองหลวง ยังคง 48% เท่าเดิม มีข้อมูลประหลาดในรายงานให้เห็นอีกจุด คือจำนวนการติดเชื้อสะสมจัดทำโดยกรมควบคุมโรค วันวาน ผู้ติดเชื้อสูงสุดอยู่ในกรุงเทพฯ805 คน แต่วันนี้เหลือ 330 หายฮวบไปเกือบ500ราย ในชั่วข้ามคืน
รายละเอียดของผู้ติดเชื้อใน กทม. เป็นเพศชาย 177 คน หญิง 152 อายุเฉลี่ย 38 ปี ความถี่ของการพบเชื้อ โด่งขึ้นมาตั้งแต่ 28 มี.ค.63 จึงต้องย้ำว่า ประชากรชาวกรุงอย่าเผลอตัวเป็นอันขาด
ในขณะที่บางประเทศแถบยุโรปอยู่ในระดับหลักพัน หลายพัน และหลักหมื่น
ตัวเลขที่เพิ่มรายวัน ยอดรวมใกล้สองพัน แต่ดูกราฟจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลากต่อเนื่องมาเป็นแรมเดือน จะเห็นอัตราการเพิ่มที่ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สามแล้ว
จำนวนคนที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล เพิ่มขึ้น 44 คน เป็นยอดรวม 1,343 ที่รักษาหายได้มาอีก 74 เบ็ดเสร็จ 416 ถึงจะดูดี แต่เส้นกราฟยังขึ้นช้า คงอีกนานกว่าจะไล่ทันเส้นผู้ติดเชื้อรายใหม่ กับเส้นคนที่รักษาตัวในโรงพยาบาล
วันนี้ สถิติทั่วไปตรงผู้ติดเชื้ออายุน้อยสุด ถึง 5 เดือน เทียบกับวันวาน 6เดือน และอายุเฉลี่ยเปลี่ยนจาก 40 เป็น 34 อายุมากสุดยังคงที่ 84 ปี
หนุ่มสาวโดยเฉพาะชาวกรุง ต้องเคร่งครัดระมัดระวังยิ่ง คนมีเด็กเล็กในความดูแล ยิ่งประมาทไม่ได้
ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านวิจัยและวิชาการ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ทำกราฟิกบอกว่า ยังรอการยืนยันอยู่ 10% แต่อธิบายไม่ได้ว่า ไปแอบรออยู่ตรงไหน
สำหรับ จำนวนผู้เสียชีวิต อาจทำให้ใจเสีย เพราะยิ่งนานวันยิ่งเยอะ แต่ถ้าลองเทียบเคียงกับประเทศอื่น จะเห็นมุมมองใหม่ ไทยยังอยู่ที่ร้อยละ 0.68(12 ราย) สิงคโปร์ 0.48%(3ราย) มาเลเซีย 1.56%(43ราย) ฟิลิปปินส์ 4.17% (96ราย) อินโดนีเซีย 8.9% (157ราย)
เราจะไม่ยอมไปถึงจุดนั้นแน่นอน !!!