“กรีนบัส” หยุดวิ่ง 1 เดือน กระทบหนักในรอบ 50 ปี

2020-04-01 15:10:50

“กรีนบัส” หยุดวิ่ง 1 เดือน กระทบหนักในรอบ 50 ปี

Advertisement

กรีนบัส ผู้ประกอบการรถขนส่งสาธารณะรายใหญ่ในภาคเหนือตอนบน ประกาศหยุดวิ่งชั่วคราว 1 เดือน เริ่ม 1 เมษายนนี้ เพื่อร่วมยับยั้งไวรัสโควิด-19 ส่งผลรถบัสกว่า 100 คันจอดนิ่งในอู่ ยอมรับได้รับผลกระทบหนักในรอบ 50 ปี วอนภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยา

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 1 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานรถกรีนบัส หรือรถเมล์เขียว นับ 100 คัน จอดนิ่งอยู่ในลานจอด และอู่รถ ของบริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด ย่านตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ หลังประกาศหยุดวิ่งชั่วคราวเป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 เม.ย.2563 นี้ เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ในการยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและประชาชน หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มสูงขึ้นสำหรับ กรีนบัส หรือที่ประชาชนในภาคเหนือเรียกกันติดปากว่า รถเมล์เขียว เป็นรถโดยสารประจำทางที่ได้รับสัมปทานวิ่งในเส้นทางภาคเหนือตอนบนทั้งหมด เปิดให้บริการประชาชนในพื้นที่มานานกว่า 50 ปี และนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ต้องหยุดวิ่งเป็นการชั่วคราว เพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นางกัลยาณี ทองคำคูณ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจขนส่งและการเดินทาง บริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด หรือ กรีนบัส กล่าวว่า ปัจจุบันกรีนบัสให้บริการขนส่งผู้โดยสารเส้นทางภาคเหนือตอนบน ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน และแม่สอด จังหวัดตาก และยังวิ่งเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค จากเชียงใหม่ และเชียงราย ไปยังจังหวัดภูเก็ต , พิษณุโลก - ดอนสัก , แม่สาย - บึงกาฬ รวมกว่าวันละ 100 เที่ยว ซึ่งทั้งหมดจะระงับการวิ่งชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 30 เม.ย.นี้ ทั้งนี้บริษัทฯ มองว่า เราเป็นรถขนส่งสาธารณะที่เคลื่อนย้ายประชาชนข้ามจังหวัดและภูมิภาค แม้จะมีมาตรการคัดกรอง และป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเข้มข้น แต่ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้น บริษัทฯจึงต้องแสดงความรับชอบต่อสังคมส่วนรวม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสในวงกว้างสำหรับประชาชนที่จองตั๋วล่วงหน้าไว้ในช่วงดังกล่าว สามารถติดต่อขอคืนเงินได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 20 พ.ค.2563 โดยหลังสถานการณ์คลี่คลาย บริษัทฯ พร้อมจะกลับมาให้บริการประชาชนในภาคเหนืออีกครั้ง




แต่ละปีกรีนบัสให้บริการขนส่งผู้โดยสารมากกว่า 1.2 ล้านคน หรือเฉลี่ยเดือนละ 1 แสนคน หากหยุดวิ่งไปก็มีผลกระทบทำให้ต้องสูญเสียรายได้วันละกว่าล้านบาทนอกจากนี้เรายังมีพนักงานอีกกว่า 600 คน ที่ต้องดูแล รวมทั้งยังมีภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมาได้ลงทุนซื้อรถบัสใหม่เข้ามาเสริม จึงต้องผ่อนชำระกับสถาบันการเงิน รวมแล้วมีค่าใช้จ่ายมากกว่าเดือนละ 45 ล้านบาท วิกฤตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้บริษัทฯได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประกอบการด้วย แม้ว่าขณะนี้รัฐยังไม่มีประกาศให้เราหยุดก็ตาม แต่เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมบริษัทฯจึงเห็นควรต้องระงับการให้บริการชั่วคราวไปก่อน