“เชียงใหม่” วิกฤติ! ขึ้นแชมป์อันดับ 1 อากาศแย่ที่สุดในโลก

2020-03-12 12:15:35

“เชียงใหม่” วิกฤติ! ขึ้นแชมป์อันดับ 1 อากาศแย่ที่สุดในโลก

Advertisement

“เชียงใหม่” ประสบปัญหาวิกฤติจากหมอกควันไฟป่าต่อเนื่อง แชมป์อันดับหนึ่ง อากาศแย่ที่สุดในโลก

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.เชียงใหม่ในช่วงนี้ยังคงประสบปัญหาวิกฤติหมอกควันไฟป่าอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าในเช้าวันนี้ทั่วเมืองเชียงใหม่ ยังคงเต็มไปด้วยฝุ่นควันสีขาวหนาทึบปกคลุมทั่วเมืองเชียงใหม่ โดยจากการตรวจสอบ ค่าปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ พบว่า ในเช้าวันนี้ที่บริเวณสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง, เชียงใหม่ พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่บริเวณสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง, เชียงใหม่ พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 40 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์คุณภาพปานกลาง นอกจากนี้จากการตรวจสอบผ่านทางhttps://www.airvisual.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดอันดับคุณภาพอากาศของหัวเมืองใหญ่ พบว่า จ.เชียงใหม่มีคุณภาพอากาศ หรือค่า AQI จำนวน 238 ซึ่งถือเป็นอันดับ 1 ของโลก

ทั้งนี้ สาเหตุของการเกิดหมอกควัน มาจากไฟป่าแม้เจ้าหน้าที่จะบูรณาการกำลังทุกภาคส่วนเข้าดับไฟอย่างต่อเนื่องมาหลายวัน แต่ก็ยังคงเกิดไฟป่าลุกไหม้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากสภาพป่าที่แห้งแล้งจึงกลายมาเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีที่ติดไฟง่ายและลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงต้องเร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าเร่งเข้าดับไฟป่าให้ได้โดยเร็วที่สุด




ขณะที่ศูนย์สั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จ.เชียงใหม่ รายงานตรวจพบจุดความร้อนในช่วงเช้า พุ่งสูงขึ้นถึง 456 จุด ใน 21 อำเภอ 75 ตำบลของ จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 260 จุด ป่าสงวนแห่งชาติ 187 จุด เขต สปก. และอื่นอีก 6 จุด นับว่าสูงที่สุดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุกลามจากจุดเดิมเมื่อวานนี้ 53 จุด โดยตรวจพบจุดความร้อนมากที่สุดที่อ.พร้าว 71 จุด รองลงมาคือ อ.อมก๋อย 49 และ อ.เชียงดาว 48 จุด ในส่วนของจุดความร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ตลอดทั้งวันมีจำนวน 367 จุด เบื้องต้นพบว่า มีพื้นที่ถูกไฟไหม้เสียหายไปกว่า 900 ไร่ ยังมีที่อยู่ระหว่างควบคุมไฟอีกเกือบ 200 จุด

โดยทางด้าน นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ ได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ อ.เชียงดาว เร่งจัดทำแผนโครงการอนุมัติจ้างผู้ที่หาของป่าจากบัญชีรายชื่อที่อำเภอได้เคยสำรวจไว้ มาเป็นพนักงานลาดตระเวนและดับไฟในพื้นที่ โดยเฉพาะใน ต.ปิงโค้ง ต.ทุ่งข้าวพวง และ ต.เมืองนะ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดความร้อนขึ้นสูงและมีไฟป่าเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แม้จะมีมาตรการปิดป่า 100% แล้วก็ตาม