โร่แจ้งไม่เกี่ยวข้อง “พีท ทองเจือ” ควงภรรยาและลูกสาว ลงบันทึกประจำวัน หลัง “เสี่ยบอย” ไลฟ์สดติดภาพตนเองแล้วนำไปแอบอ้างขายหน้ากากอนามัย
หลังจากที่มีงานเข้า หลายคนพุ่งเป้าว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักตุนหน้ากากอนามัยกว่า 200 ล้านชิ้น เพื่อส่งออกไปขายที่ประเทศจีน สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ “พีท ทองเจือ” ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ได้ให้สัมภาษณ์แล้วว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อแต่อย่างใด
(อ่านข่าว : หน้ากากฯ เป็นเหตุ "พีท ทองเจือ" ยัน ไม่รู้จัก "บอย" เตรียมแจ้งความเอาผิด !)
ล่าสุด “พีท ทองเจือ” ก็ได้เดินไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ปทุมวัน เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับ “นายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี” หรือ “เสี่ยบอย” ที่ได้โพสต์ขายหน้ากากอนามัย พร้อมขอให้ตำรวจพิจารณาดำเนินคดี กรณีที่ไลฟ์สดถ่ายติดภาพตนเองแล้วนำไปแอบอ้าง
ซึ่งงานนี้หนุ่มพีท ก็ได้เดินทางไปพร้อมกับภรรยาและลูกสาว ไปเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อขอให้ตำรวจลงบันทึกประจำวัน เป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ว่า… เจ้าตัวไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับ “เสี่ยบอย” ที่ไลฟ์เฟซบุ๊กว่ามีหน้ากากอนามัยกว่า 200 ล้านชิ้น เพื่อส่งขายให้ประเทศจีน
โดย “พีท ทองเจือ” ได้ระบุให้ได้ฟังอย่างละเอียดว่า…
“เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ขณะที่เจ้าตัวไปถ่ายละครที่พัทยากลาง เมื่อต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ขณะนั้นเห็น “เสี่ยบอย” กำลังไลฟ์สดเดินผ่านมาทางตน และขอให้พูดทักทายกับคนที่ดูไลฟ์สดอยู่ จึงทักทายตอบ ก่อนที่ “เสี่ยบอย” จะเดินต่อไปคุยกับคนอื่นในกองถ่าย ยืนยันว่าเจ้าตัวไม่ได้รู้จักกับ “เสี่ยบอย” มาก่อน
กระทั่งเมื่อไม่กี่วันมานี้ เห็นมีการแชร์คลิปไลฟ์สดดังกล่าว ซึ่งมาจากเฟซบุ๊กของ “เสี่ยบอย” ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่า เจ้าตัวนั้นอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงตัดสินใจมาลงบันทึกประจำวันเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และขอให้ตำรวจพิจารณาดำเนินคดีความผิดที่เกี่ยวข้อง หากพิจารณาแล้วเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดกฎหมาย
ซึ่งเบื้องต้นจากการเปิดคลิปให้ตำรวจดู ก็เชื่อว่าตนเองไม่น่ามีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะไม่ได้พูดถึงการโฆษณาชวนเชื่อใดๆ ส่วนจะดำเนินได้อย่างไรบ้าง ยอมรับว่าต้องรอพิสูจน์ข้อเท็จจริงหลายเรื่อง หากจะพิจารณาว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่
ส่วนจะดำเนินคดีเพจชื่อดังที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลเรื่องนี้หรือไม่ มองว่าการที่เพจออนไลน์นำไปโพสต์ เป็นเรื่องปลายทาง หากจะดำเนินคดีก็น่าจะพิจารณาเอาผิดกับคนที่เป็นต้นทางมากกว่า”
อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวน ได้แนะนำและรับลงบันทึกประจำวันไว้ตามร้องขอไว้ก่อน ส่วนการดำเนินคดีเอาผิดทางอาญา แนะนำให้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่ม เช่น ภาพที่มีคนเข้าไปโพสต์ข้อความต่างๆ ซึ่งยังมีเวลาอายุความ 3 เดือน ที่จะพิจารณาเอาผิดต่อไป... ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม : @pete_thongchua.nmg
ทั้งนี้ยืนยันว่าโดยส่วนตัวไม่รู้สึกหนักใจที่อาจได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้ แต่ไม่ต้องการให้สังคมเข้าใจผิด และไม่ต้องการให้มีการนำภาพที่ถ่ายติดภาพของตน นำไปใช้แอบอ้างในการโฆษณาเพื่อขายสินค้า หรือทำผิดกฎหมาย ซึ่งก็อยากเรียกร้องให้ “เสี่ยบอย” ออกมาแสดงความรับผิดชอบ มากกว่ากล่าวคำว่าขอโทษ
