การบินไทย ออกชี้แจงกรณี "ผู้โดยสาร" ไม่พอใจหลังเครื่องจอดรอตรวจ "โควิด-19" นานถึง 7 ชั่วโมง จึงไอใส่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่เซี่ยงไฮ้ เจ้าหน้าที่ต้องเข้าระงับเหตุวุ่น
จากกรณีสมาชิกยูทูบรายหนึ่งได้โพสต์คลิปปรากฎภาพความวุ่นวายภายในห้องผู้โดยสารของสายการบินไทย โดยผู้โพสต์ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่สนามบินผู่ตง นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เนื่องจากเครื่องบินต้องรอกระบวนการในการฆ่าเชื้อ ทำให้ผู้โดยสารต้องรออยู่บนเครื่องนาน 6-10 ชั่วโมง
สุดท้ายผู้โดยสารหญิงชาวจีนคนหนึ่ง เกิดอาการคลุ้มคลั่ง จึงตั้งใจไอใส่พนักงานต้อนรับหญิงคนหนึ่ง เพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูเครื่องบินเพื่อให้เธอออกไปจากเครื่อง ขณะที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องระดับอาวุโสนายหนึ่ง เข้ามาตักเตือนผู้โดยสารหญิงรายดังกล่าวก่อนที่จะมีการต่อสู้กันอย่างอุตลุด ซึ่งสุดท้ายเจ้าหน้าที่สามารถล็อกตัวผู้โดยสารรายนี้เอาไว้ได้
ด้าน เรืออากาศเอก ปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคง และมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ชี้แจง ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบนเที่ยวบินที่ ทีจี 664 ของวันที่ 6 มี.ค. 2563 เส้นทางบินกรุงเทพฯ-เซี่ยงไฮ้ โดยขณะที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ ทางการบินไทยได้รับแจ้งว่าในวันที่ 6 มี.ค.2563 เป็นวันแรกที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ จะใช้มาตรการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่มีประวัติการเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ อิตาลี, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และอิหร่าน
โดยเครื่องบินทุกลำที่มีผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง จะต้องถูกเจ้าหน้าที่คัดกรองอย่างเข้มข้น ส่วนสายการบินที่ยังไม่ได้ตรวจจะไม่อนุญาตให้เปิดประตูเครื่องบินจนกว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าดำเนินการ ส่วนมาตรการตรวจคัดกรองเครื่องบินแต่ละลำ จะมีความเข้มข้นซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ขณะที่เที่ยวบินของการบินไทย ก็ต้องรอประมาณ 7 ชั่วโมง กว่าที่เจ้าหน้าที่จะมาถึงคิวตรวจ
จากการที่ผู้โดยสารต้องรอการตรวจคัดกรองเป็นเวลานาน ทำให้มีผู้โดยสารรายหนึ่งไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงไอใส่หน้าพนักงานต้อนรับหญิงที่พยายามอธิบายให้ผู้โดยสารรับทราบถึงสถานการณ์ และขอให้อยู่ในความสงบ ในเวลาต่อมาผู้โดยสารคนดังกล่าวจึงอยู่ในความสงบลงและยอมนั่งลงกับที่ เพื่อรอการตรวจคัดกรองต่อไป