เขยโหด! ยิงดับ "พ่อตา-แม่ยาย-ลูก" ก่อนฆ่าตัวตายตาม

2020-03-05 10:45:26

เขยโหด! ยิงดับ "พ่อตา-แม่ยาย-ลูก" ก่อนฆ่าตัวตายตาม

Advertisement

เขยโหดบุกยิงอดีตพ่อตา แม่ยายดับ และกระสุนพลาดไปถูกลูกสาววัย 5 ขวบ เสียชีวิต ก่อนยิงตัวตายตาม

เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 4 มี.ค.ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรบ้านแพ้วได้รับแจ้งมีเหตุยิงกัน และมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 9 ต.หนองบัว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ดลชัย ปิ่นปัก ผกก.สภ. บ้านแพ้วและร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอบ้านแพ้วทราบ พร้อมกับประสาน พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ บุณยะกาญจน์ หัวหน้าหน่วยวิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรสาคร, พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ โต๊ะถม ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.7,พ.ต.อ.ณวัฒน์ ศุกลรัตน์ ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร,พ.ต.ท.ธีรวุฒิ เกิดจงรักษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.บ้านแพ้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ตำรวจสืบสวนสภ.บ้านแพ้ว เจ้าหน้าที่ พฐ. และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบ โดยที่บ้านหลังดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ้านในสวนลำใย ปลูกสร้างด้วยไม้ชั้นเดียวขนาดใหญ่ ยกพื้นสูงจากใต้ถุนเกือบ 1 เมตร มีรั้วปิดทางเข้าออก ภายในบ้านมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เสียชีวิต 2 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายทิม สุขสว่าง อายุ 74 ปี เป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เป็นเจ้าของสวนลำใยรายใหญ่ในพื้นที่ อ.บ้านแพ้ว และยังเป็นไวยาวัจกรวัดหนองบัว มีบาดแผลถูกยิงตามลำตัวทั้งเข้าและออกรวม 11 รู เสียชีวิตอยู่กลางบ้าน ส่วนอีกศพพบในห้องนอน คือ นางกาญจนี สุขสว่าง อายุ 71 ปี เป็นภรรยาของนายทิม มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด ต้นขาอีก 1 นัด ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายธนภัทร หรือนิตย์ อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ที่ 7 ต.พังตรุ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เป็นอดีตลูกเขยของผู้เสียชีวิต โดยหลังจากยิงพ่อตาแม่ยายแล้วยังพยายามที่จะบุกเข้าไปในห้องเพื่อยิงอดีตภรรยา กับน้องชายและน้องสะใภ้ของภรรยาอีกด้วยแต่เข้าไปไม่ได้ ทำให้ทั้ง 3 คน รวมถึง ด.ญ.มานิตยา สุขสว่าง อายุ 12 ปี หรือเมย์ ลูกสาวคนโตของมือปืนรอดจากคมกระสุนไปได้อย่างหวุดหวิด แต่ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไปนั้นก็ได้พา ด.ญ.น้ำมนต์ สุขสว่าง หรือ น้องมายด์ อายุ 5 ขวบ ลูกสาวคนเล็กที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกลูกหลงเพราะนอนอยู่กับตายายหลบหนีไปด้วย ส่วนบนพื้นบ้านพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 7 ปลอก ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจพิสูจน์หลักฐานในที่เกิดเหตุบนบ้านของอดีตพ่อตาและแม่ยายอยู่นั้น ก็ได้รับแจ้งจากญาติผู้เสียชีวิตว่า พบเห็นรอยเลือดบนคันดินเปื้อนเป็นทางยาวไปถึงโรงเก็บอุปกรณ์ทางการเกษตรของเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสวนลำใยของผู้เสียชีวิต ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุมาประมาณ 300 เมตร จึงคาดว่านายธนภัทร คนร้าย น่าจะหลบซ่อนตัวอยู่ในนั้น ส่วนรอยเลือดก็น่าจะเป็นของน้องมายด์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กระจายกำลังกันปิดล้อมทั้ง 4 ด้าน และรอจังหวะที่จะเข้าประกบตัวคนร้าย แต่ก็ต้องระมัดระวังกันอย่างสุดชีวิต เพราะนอกจากจะทำงานลำบากเนื่องจากเป็นช่วงกลางคืนแล้ว คนร้ายยังมีน้องมายด์อยู่ด้วย หากจู่โจมเข้าไปอาจจะทำให้ทั้งตำรวจและเด็กเป็นรับอันตรายได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พยายามตะโกนเจรจาต่อรองให้คนร้ายยอมมอบตัว แต่ปรากฏว่าเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็มีเสียงปืนดังมา 1 ครั้ง จากทางจุดที่คนร้ายหลบซ่อนตัวอยู่ เมื่อสิ้นเสียงปืนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รุกเข้าไปใกล้แล้วก็ส่องไฟไปทางโรงเก็บอุปกรณ์ จึงเห็นว่ามีร่างของนายธนภัทร มือปืนนอนจมกองเลือด และมีอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ทางปลายมือขวา 1 กระบอก ส่วนทางซ้ายมือในอ้อมกอดมีศพ ด.ญ.น้ำมนต์ หรือน้องมายด์ ถูกพันร่างด้วยผ้าขาวม้าเปื้อนเลือด ซึ่งจากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นพบน้องมายด์ ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ด้านหลังทะลุหน้าท้อง 1 นัด และที่หน้าแข้งข้างซ้ายอีก 1 นัด โดยน่าจะถูกลูกหลงมาจากในบ้านและทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตกลางทาง ขณะที่พ่ออุ้มพาหลบหนีมาทางในสวน ส่วนนายธนภัทร มือปืนมีรอยถูกกระสุนปืนยิงเข้ากลางหน้าอก 2 นัดซ้อน ซึ่งเกิดจากการฆ่าตัวตายเอง โดยคาดว่าเมื่อนายธนภัทรพาลูกหนีออกมาแล้ว เห็นว่าลูกเสียชีวิตจึงเกิดความเสียใจและรับไม่ได้ที่ตนเองทำให้ลูกต้องตาย จึงฆ่าตัวตายตาม




จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายธนภัทร อดีตลูกเขยรายนี้แต่งงานกับนางมนต์ทิพย์ เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมาจนมีลูกด้วยกัน 2 คนเป็นผู้หญิงทั้งคู่ ซึ่งลูกสาวคนโตอายุ 12 ปี ส่วนคนเล็กที่เสียชีวิตอายุ 5 ปี แต่ทั้งสองคนมีปัญหากันจึงเลิกกันไปได้เกือบ 4 ปีแล้ว ต่อมาเมื่อไม่นานนี้นายธนภัทร มือปืน พยายามที่จะโทรมาหาพ่อตา แม่ยายและภรรยา เพื่อขอลูกสาวทั้ง 2 คนไปเลี้ยงดู แต่ทางอดีตพ่อตากับแม่ยายไม่ยอมให้เอาไปอยู่ด้วยเพราะเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กจึงรักหลานทั้งสองคนมาก แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้ห้ามหรือกีดกันที่อดีตลูกเขยจะไปมาหาสู่กับหลานๆ เพราะอย่างไรก็เป็นสายเลือดเดียวกัน จึงไม่มีใครคาดคิดว่าจะมาก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน ประกอบด้วย ศพของนายทิม สุขสว่าง อายุ 74 ปี อดีตพ่อตาของมือปืน,ศพของนางกาญจนี สุขสว่าง อายุ 71 ปี อดีตแม่ยายของมือปืน ,ศพของ ด.ญ.น้ำมนต์ สุขสว่าง หรือ น้องมายด์ อายุ 5 ขวบ ลูกสาวคนเล็กของมือปืน และศพของนายธนภัทร ลิ้มชื่น มือปืนที่ก่อเหตุไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช พร้อมกันนี้ก็จะได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบปากคำ เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนของการก่อเหตุสะเทือนขวัญและเศร้าสลดใจรายนี้ต่อไป