รองอธิบดีกรมอนามัยชี้หน้ากากผ้าจำเป็นสำหรับคนไม่ป่วย

2020-03-04 16:00:57

รองอธิบดีกรมอนามัยชี้หน้ากากผ้าจำเป็นสำหรับคนไม่ป่วย

Advertisement

รองอธิบดีกรมอนามัยเผยหน้ากากผ้าจำเป็นสำหรับคนไม่ป่วย ป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ 54-59 เปอร์เซ็นต์ 

เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการใช้หน้ากากอนามัย ว่า ขณะนี้มีการออกมาพูดว่าหน้ากากชนิดผ้าไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 แต่กรมอนามัยได้มีการวิเคราะห์ และยืนยันว่าหน้ากากชนิดผ้ามีความจำเป็นสำหรับประชาชนทั่วไปที่ยังไม่ป่วย ที่สามารถนำมาใช้เพื่อป้องกันโรคนี้ได้ กรณีที่จำเป็นต้องไปในพื้นที่ที่มีคนเยอะ พื้นที่แออัด ส่วนคนที่ไม่ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ปกติ พื้นที่โล่ง ยังมีโอกาสติดเชื้อจากการสัมผัสสิ่งของต่างๆ ดังนั้นขอให้ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือน้ำสบู่ก็เพียงพอ ทั้งนี้ หน้ากากผ้า เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าสาลู หรือผ้าอ้อมเด็ก ผ้าใยสังเคราะห์ ยิ่งซักตารางความห่างของผ้ายิ่งมีขนาดเล็กลงเหลือประมาณ 1 ไมครอน ในขณะที่เชื้อโควิด-19 ที่มากับละอองฝอยจากการไอ จาม จะมีขนาด 5 ไมครอน หน้าหากอนามัยชนิดผ้าจึงสามารถป้องกันได้ 54-59 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็เพียงพอในการใช้ป้องกันสำหรับคนที่ไม่ป่วยจึงขอชวนคนไทยทำหน้ากากผ้าใช้ อย่างน้อยคนละ 3 ผื่น รวมๆ กันจะได้ประมาณ 210 ชิ้น เชื่อว่าหากทำได้ 1-2 เดือนนี้ปัญหาหน้ากากอนามัยทางการแพทย์จะคลี่คลาย ซึ่งหน้ากากอนามัยทางการแพทย์นั้นจำเป็นสำหรับผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานเสี่ยงสัมผัสเชื้อโรคซึ่งไม่เพียงแต่โควิด-19 เท่านั้น แต่ยังมีเชื้ออันตรายอื่นๆ ด้วย เช่น วัณโรค ก็จะมีเพียงพอ หน้าในท้องตลาดก็จะถูกลง ขณะนี้ กรมอนามัยได้สั่งการไปยังสำนักอนามัยทั่วประเทศให้ประสานความร่วมมือกับชมรมต่างๆ ในพื้นที่ เช่น ชมรมผู้สูงอายุ ชมรมผู้พิการ กลุ่มสตรี แม่บ้าน ในการร่วมกันผลิตหน้ากากอนามัยชนิดผ้าแล้ว โดยใช้งบของกรมอนามัยตามปกติ ไม่จำเป็นต้องของบเพิ่มเติมแต่อย่างใด เพราะต้นทุนไม่แพง เช่น ผ้าสาลู 1 เมตร ราคา 25 บาท ทำหน้ากาก 3 ชั้น จะได้หน้ากากประมาณ 9 ชิ้น แล้ว