สั่งฟัน! 2 ข้อหาร้านของเก่า “รีไซเคิลหน้ากากอนามัย”

2020-03-03 17:30:04

สั่งฟัน!  2 ข้อหาร้านของเก่า  “รีไซเคิลหน้ากากอนามัย”

Advertisement

ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาสาวใหญ่ “รีไซเคิลหน้ากากอนามัย” หลังให้การรับสารภาพรับซื้อหน้ากากอนามัยใช้แล้วมาซักรีดให้ดูสะอาดเรียบเหมือนใหม่แล้วประกาศขายทางช่องทางออนไลน์

คืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 2 มี.ค. เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข ตำรวจร่วมมือกันนำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 6 ต.หนองสรวง อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ลักลอบนำหน้ากากอนามัย ที่ใช้แล้วนำมา “รีไซเคิล” ส่งออกจำหน่ายมีจำนวนมากนับหมื่นชิ้น ซ้ำเติมภัยอันตรายต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ที่กำลังแพร่ระบาดสร้างความหวั่นวิตกให้กับคนทั่วไปในขณะนี้

ล่าสุดวันที่ 3 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบ พ.ต.ท.สำราญ โสรีกุน พนักงานสอบสวน สภ.วิหารแดง เจ้าของคดี เพื่อขอทราบความคืบหน้าว่าได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา กับเจ้าของบ้าน และบุคคลใดบ้างที่ร่วมกันดำเนินการนำหน้ากากอนามัยมารีไซเคิล จำหน่าย




พ.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้เชิญนางจินตนา อายุ 46 ปี มีภูมิลำเนาเดิมที่ ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นางวีรวรรณ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้าน ต.หนองสรวง อ.วิหารแดง จ.สระบุรี และ น.ส.พิมพ์วลัญชน์ อายุ 44 ปี อยู่ที่ ต.บางปูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี มาทำการสอบสวนเบื้องต้น โดยคนทั้งสามให้การว่า นางจินตนา กับ นางวีรวรรณ์ ได้ซื้อหน้ากากอนามัยมาจาก ร้านค้าของเก่าร้านหนึ่ง ตั้งอยู่ในเขต ต.หนองหมู อ.วิหารแดง เมื่อซื้อมาแล้วได้ทำการคัดหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วที่ยังสมบูรณ์มาเข้าเครื่องซักผ้า จากนั้นนำมาคัดแยกอีกรอบหนึ่ง เพื่อทำการรีดให้มีความเรียบเหมือนของใหม่ เพื่อจัดจำหน่ายโดยนางวีรวรรณ์ เปิดขายทาง”ออนไลน์” ซึ่งมีผู้หลงเชื่อและสั่งซื้อ จำนวน 2 ครั้งๆ ละ 12 กล่องๆ ละ 3,500 ชิ้น ในราคาชิ้นละ 3 บาท

ทั้งนี้ ทั้งสามคนยอมรับว่าได้ทำการ “รีไซเคิล”หน้ากากอนามัยจริง ตามที่เป็นข่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหากับบุคคลทั้งสาม ตามมาตรา 271 ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ให้ผู้หลงซื้อเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ หรือปริมาณอันเป็นเท็จ ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกงต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และนอกจากนั้นยังมีความผิดไม่มีใบอนุญาตค้าของเก่าอีกข้อหาหนึ่งด้วย ในชั้นต้นได้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานและเตรียมเรียกผู้ต้องหาคุมตัวส่งฟ้องศาล จ.สระบุรีต่อไป