นพ.สาธารณสุขจังหวัดตรัง ยันยันชาวจีน 2 คน ที่หนีออกจากรพ.เอกชน หลังพบว่าตัวเองมีอาการไข้ขึ้นสูงจึงไป รพ.เพื่อพบแพทย์ แต่ต้องรอนานกว่าชั่วโมง ทำให้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 รายดังกล่าว ออกไปจาก รพ.โดยไม่ได้แจ้ง ทำให้ทุกฝ่ายต้องตามหาตัวจ้าละหวั่น และพบไปนั่งอยู่ภายในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง จึงเชิญตัวกลับไป รพ.เพื่อตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียด ทั้งนี้ พบว่า 1 ในนั้น มีหนังสือเดินทางเป็นคนจีนที่เดินทางมาจากประเทศจีนเข้าเมืองมาเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง และล่าสุดผลตรวจเบื้องต้นไม่พบเชื้อแต่อย่างใด
วันที่ 27 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ รพ.ต้องระดมกำลังกันออกตามหาตัวชายชาวจีน จำนวน 2 คน ที่หนึ่งในนั้นมีอาการป่วยไข้ขึ้นสูง และเดินทางไปพบหมอที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองตรัง และวัดอุณหภูมิร่างกายเบื้องต้นพบไข้ขึ้นสูง 37 องศาเซลเซียส แต่ รพ.เอกชนยังไม่ได้ทำการตรวจรักษาหลังคนไข้นั่งรอนานนับชั่วโมง คนไข้ทั้ง 2 คน จึงออกมาจาก รพ.เอกชนดังกล่าว ทำตำรวจ หมอ วิ่งวุ่นทั้งเมืองเพื่อติดตามหาตัวคนไข้รายดังกล่าว ทั้งรีสอร์ท ห้องพัก โรงแรมต่างๆ รวมทั้งบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ เพื่อสอบถามประชาชน จนกระทั่งไปพบตัวเข้าไปนั่งอยู่ภายในสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งในกลางเมืองตรัง จึงต้องทำการกักตัว และ พญ.จิรวรรณ อารยะพงษ์ ผอ.รพ.ตรัง พร้อม นพ.ไกรสร โตทับเที่ยง รอง ผอ.รพ.ตรัง พร้อมรถพยาบาลฉุกเฉินเดินทางไปรับทั้ง 2 คน ไปที่ รพ.ศูนย์ตรังทันที เพื่อทำการตรวจเช็คร่างกายของชายคนดังกล่าวอย่างละเอียด โดยข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า ชาวจีนรายดังกล่าวเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่อยู่อาศัยใน จ.ตรัง มานาน ไม่เคยไปในพื้นที่เสี่ยง
แต่ล่าสุด นพ.บรรเจิด สุขพิพัฒน์ปานนท์ นพ.สาธารณสุขจังหวัดตรัง กล่าวยืนยันว่า 1 ในชายชาวจีนเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากประเทศจีน ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง โดยเดินทางเข้าประเทศมาเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา จึงทำให้ทาง รพ.และสาธารณสุขต้องติดตามหาตัวให้พบ เพื่อนำตัวมาตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียดว่า ได้รับเชื้อไวรัสโควิด 19 มาหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการมาตรฐานสาธารณสุข เบื้องต้นได้รับรายงานจาก ผอ.รพ.ศูนย์ตรังว่า ผลตรวจร่างกายของนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวเป็นลบ ไม่พบเชื้อแต่อย่างใด โดยทางสาธารณสุขตรังเราได้ดำเนินการตามข้อบ่งชี้ว่าเป็นบุคคลที่ต้องตรวจเฝ้าระวัง เนื่องจากชายคนดังกล่าว 1. มีไข้ 2. มีอาการของโรคทางเดินหายใจ และ 3.เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ซึ่งสาธารณสุขได้ดำเนินการตามแผนหลักวิชาการมาตรฐาน ทั้งนี้ แม้ผลตรวจเบื้องต้นจะระบุออกมาว่า ไม่พบเชื้อไข้ไวรัสโควิด 19 แต่ทางสาธารณสุขได้สั่งกำชับให้นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวป้องกันตนเอง รวมทั้งกักพื้นที่ตนเอง เพื่อเฝ้าระวังตัวเอง โดยให้คอยสังเกตอาการให้ครบ 14 วัน หากพบมีอาการป่วยอีกก็ให้แจ้งมาทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการส่งรถไปรับ เพื่อมาเข้าสู่กระบวนการตรวจเช็คร่างกาย และหากพบเชื้อก็จะเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป
