ยิงกันกลางห้างสรรพสินค้าอีกแล้ว คราวนี้ใจกลางกรุงเทพฯ ที่เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า มีทั้งคนเจ็บ คนตาย และคนที่แตกตื่น หลบกระสุนจ้าละหวั่น
มูลเหตุไม่มีอะไรซับซ้อน เป็นเรื่องความหึงหวง ของคนเคยเป็นสามีภรรยากัน หย่ากันแล้ว แต่ยังหึงหวงเคียดแค้น ลงมือแบบขาดสติ เห็นชีวิตคนอื่นเป็นผักปลา ยิงล้มคว่ำลงแล้วยังตามยิงซ้ำ กระสุนตกเกลื่อนในที่เกิดเหตุ
มิหนำซ้ำยังคุยเขื่องสะท้อนความอาฆาตมาดร้าย จะไปเด็ดชีพแฟนใหม่อดีตภรรยา ที่เจ้าตัวเรียกว่า"ชู้"อีก 1 คน
โชคดีในความเลวร้ายที่ตำรวจรวบตัวได้เสียก่อน ก่อนจะไปตามฆ่าคนอื่นอีก
แสร้งทำเป็นเขียนจดหมายถึงแม่ บอกรักแม่ แต่หาสำนึกไม่ว่า สิ่งที่ทำขึ้นสร้างความโหดร้ายสะเทือนใจให้กับผู้เป็นแม่อย่างยิ่ง แถมยังเพิ่มภาระให้แม่ไปคอยดูแลลูกน้อยที่บ้านตายายของเด็กอีกต่างหาก ไม่รู้เก็บเงินไว้ให้แม่ใช้สักกี่ล้านบาท
เป็นหนึ่งในคดีความรุนแรงที่นับวันยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกทีในสังคมไทย ท่ามกลางยุคสมัยที่เรียกกันว่า 4.0 สังคมก้าวกระโดดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว วิถีชีวิต ความคิดและความเชื่อเปลี่ยนไปจากเดิม ต้องดิ้นรนแข่งขันเอาตัวรอด ความสัมพันธ์แบบปฐมภูมิแทบไม่มีเหลือ ผูกพันอยู่กับโลกจินตนาการที่ไม่มีวันเป็นจริงผ่านสมาร์ทโฟน ฝันอยากหล่อ สวย รวย เก่งโดยไม่เลือกวิธีการ หวังเป็นซินเดอเรลล่าหรือเทพบุตรของใครบางคนที่มีเพียบพร้อมและรอคอยอยู่
มองเรื่องความรักและเปลี่ยนคู่ใหม่เป็นเรื่องปกติ หรือเป็นจุดเด่นที่ต้องอวดให้ใครๆได้รู้ การเปิดตัวแฟนใหม่ หรือโชว์ใบหย่าจึงไม่ใช่เรื่องแปลก รวมกระทั่งการโพสต์ภาพความใจบุญของตนเองให้คนอื่นกดไลค์กดแชร์
เป็นสังคมใหม่ที่ไร้ราก สร้างแบบอย่างที่ผิดๆให้กับคนรุ่นต่อๆไป แม้แต่เรื่องไลฟ์สไตล์ที่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย
ท่ามกลางสังคมที่เปราะบาง ผู้ด้อยโอกาสกว่าต่างต้องหาทางสร้างจุดเด่นให้คนอื่นยอมรับให้ได้ แม้จะต้องทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายละเมิดศีลธรรมจรรยา ด้านหนึ่งคืออาศัยเล่ห์เหลี่ยมแบบคน 18 มงกุฎ กับอีกด้านหนึ่งคือใช้ความได้เปรียบในสถานะทางสังคมของตนเอง หรือใช้กำลัง หรือใช้อาวุธเพื่อบังคับและทำการในสิ่งที่มุ่งหวัง
ปืนคืออาวุธที่ผู้คนชอบใช้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็หาได้ง่ายอย่างที่คาดคิดกันไม่ถึง ปืนขนาดต่างๆ ตั้งแต่ปืนปากกา ปืนจากนอก หรือแม้แต่ปืนไทยประดิษฐ์ขนาดต่างๆ มีขายดาษดื่น แม้แต่ทางอินเตอร์เน็ต เป็นต้นตอสำคัญ ที่นำไปสู่คดีอาชญากรรมในประเทศ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เมื่อครั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยตอบกระทู้นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในสภาที่ถามถึงจำนวนปืนทั้งหมดที่มีในครอบครองของคนไทยว่า เฉพาะที่นำเข้าถูกกฎหมาย มีรวมทั้งสิ้น 6.2 ล้านกระบอก แยกเป็นปืนสั้น 3.74 ล้านกระบอก ปืนยาว 2.47 ล้านกระบอก เฉลี่ยคนไทย(ขณะนั้น) 63 ล้านคน เฉลี่ยทุกสิบคนจะมีปืนถูกกฎหมาย 1 กระบอก ไม่นับรวมปืนในครอบครองที่ผิดกฎหมาย
ส่วนตัวเลขล่าสุด ปี 2560 จากองค์กรนานาชาติที่ชื่อว่า small arms survey ระบุว่า พลเรือนไทยมีปืนในครอบครองมากถึง 10.3 ล้านกระบอก สูงเป็นอัน 13 ของโลก
สถิติเหล่านี้ นอกจากสะท้อนให้เห็นอาวุธใช้สังหารคนอย่างปืน จะมีมากมายในประเทศไทยจริงๆแล้ว ยังสะท้อนที่มาสำคัญของการก่ออาชญกรรมอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยที่ไม่เคยว่างเว้นเลยแม้แต่วันเดียว
คดีฆ่าอดีตภรรยาที่เซ็นจูรี่ จึงเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น และไม่ใช่คดีสุดท้าย