รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศแผน รถยนต์ในประเทศเลิกใช้น้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล ภายในปี พ.ศ. 2583 โดยจะเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นหลัก ในความพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก หรือ ภาวะโลกร้อน
สิงคโปร์ ประเทศขนาดเล็กฐานะร่ำรวย ประชากร 5.7 ล้านคน แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งใช้เงินทุนมากขึ้นสำหรับการป้องกันน้ำท่วม เข้าร่วมกับนนอร์เวย์ อังกฤษและอีกหลายประเทศ ในการกำหนดเป้าหมาย ลดการใช้รถยนต์เครื่องยนต์สันดาป
นายเฮง สวี เกียต รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสิงคโปร์ กล่าวในระหว่างการแถลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี ต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันอังคารว่า รัฐบาลสิงคโปร์มีวิสัยทัศน์เลิกใช้แบบเป็นขั้นตอน เครื่องยนต์เผาไหม้ภายใน หรือเครื่องยนต์ไอซี (internal combustion engine) และให้รถยนต์ทุกคันในประเทศ ใช้พลังงานสะอาดกว่า ภายในปี พ.ศ. 2583
นายเฮงกล่าวอีกว่า รัฐบาลเตรียมมาตรการหลายอย่าง เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า เช่น ส่วนลดค่าธรรมเนียม สำหรับการซื้อรถยนต์นั่งส่วนบุคคลหรือรถแท็กซี่ ที่เป็นระบบไฟฟ้าทั้งคัน นอกจากนั้นรัฐบาลยังจะขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะ จาก 1,600 จุดในปัจจุบัน เป็น 28,000 จุด ภายในปี พ.ศ. 2573.