“เทพไท” แนะ อนค.จัดการ “พล.ท.พงศกร” ให้เป็นแบบอย่าง

2020-02-18 22:20:58

“เทพไท” แนะ อนค.จัดการ “พล.ท.พงศกร” ให้เป็นแบบอย่าง

Advertisement

“เทพไท” แนะพรรคอนาคตใหม่จัดการกรณี “พล.ท.พงศกร” ให้เป็นแบบอย่าง ก่อนที่จะไปดำเนินการใดต่อกองทัพ 

เมื่อวันที่ 18 ก.พ. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)  ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ได้ติดตามกระแสข่าวเรื่องการปฏิรูปกองทัพของ ผบ.ทบ.อย่างใกล้ชิด รู้สึกดีใจและยินดีต่อแนวความคิดให้ข้าราชการทหารที่เกษียณอายุต้องออกจากบ้านพักของกองทัพ และได้มีเสียงตอบรับอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคอนาคตใหม่ ได้รณรงค์เคลื่อนไหวการปฎิรูปกองทัพมาอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อพบข้อมูลว่าพล.ท.พงศกร รอดชมพู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เคยเป็นข้าราชการทหารที่เกษียณอายุราชการมาแล้ว 4 ปี ยังคงใช้สิทธิ์พักอาศัยในบ้านพักของกองทัพอยู่ ทำให้เสียรังวัด และขาดความน่าเชื่อถือในการรณรงค์เพื่อปฏิรูปกองทัพไปพอสมควร กลับถูกสังคมค่อนแคะในลักษณะว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง การที่พล.ท.พงศกรได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยการลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ถือว่าเป็นการแสดงสปิริตระดับหนึ่ง แต่ถ้าหากยึดถือมาตรฐานของพรรคอนาคตใหม่ ก็ควรจะมีความรับผิดชอบที่สูงกว่านี้ เพราะที่ผ่านมามี ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ โหวตสวนมติพรรค ที่ประชุมใหญ่พรรคมีมติขับไปออกจากสมาชิกพรรคไปแล้ว ส่วนในกรณีพล.ท.พงศกร ถ้าจะใช้มาตรฐานของพรรคอนาคตใหม่ก็ควรจะต้องลาออกจาก ส.ส.ของพรรคด้วย ซึ่งทำให้มีความสง่างามทางการเมือง และจะทำให้พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคการเมืองที่มีมาตรฐานสูง ไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อสมาชิกพรรคที่มีข้อครหาจากสังคม

“การที่ พล.ท.พงศกร ได้กล่าวอ้างว่าตนเองได้เกษียณอายุมาแล้ว 4 ปีและยังพักอาศัยอยู่ในบ้านพักกองทัพนั้น แต่ถ้าดูข้อเท็จจริงจากการรับราชการของพลโทพงศกร ซึ่งได้โอนย้ายจากข้าราชการทหารไปเป็นข้าราชการพลเรือนในตำแหน่ง รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติตั้งแต่ปี 2555 ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ แสดงว่าพล.ท.พงศกรได้พ้นจากข้าราชการทหารไปตั้งแต่ปี2555 เพราะฉะนั้นพล.ท.พงศกรได้พักอาศัยในบ้านพักของกองทัพในฐานะที่พ้นจากข้าราชการทหารมาเป็นเวลา 8 ปี ไม่ใช่ 4 ปีตามที่กล่าวอ้าง ดังนั้นพรรคอนาคตใหม่ก็ควรที่จะจัดการปัญหากับคนในพรรคของตัวเองให้เป็นแบบอย่าง ก่อนที่จะไปดำเนินการใดๆต่อกองทัพ ถ้ายังปล่อยประละเลยไม่เข้มงวดต่อสมาชิกพรรคของตนเอง ก็จะทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ และขาดความชอบธรรมในการรณรงค์ปฏิรูปกองทัพให้ประสบความสำเร็จตามเจตนารมย์ของพรรคอนาคตใหม่ที่ตั้งปณิธานไว้ “นายเทพไท กล่าว