พล.ต.อ.สุวิระ ทรงเมตตา ที่ปรึกษา สบ. 10 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผู้บังคับการกองสารนิเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมูลนิธิทนายความชาวบ้าน ร่วมกันแถลงข่าว การช่วยเหลือ เยียวยาผู้เสียหาย จากคดียูฟัน ที่เมื่อวานนี้ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ได้พิพากษาสั่งจำคุก 22 จำเลยคดีแชร์ลูกโซ่ยูฟัน 12,255 ปี และยกฟ้อง 21 คน
โดยพล.ต.อ.สุวิระ ระบุว่าแนวทางในการ ดำเนินการของผู้เสียหายที่แจ้งความไปแล้วนั้น จะต้องไปติดต่อเพื่อทำเรื่องในการมอบอำนาจให้กับ ทนายจากมูลนิธิทนายชาวบ้าน เพื่อให้ทนายความเป็นตัวแทนในการดำเนินการ ตามขั้นตอนกฎหมายจนกว่าผู้เสียหายจะได้คืน หากผู้เสียหายไม่ไปมอบอำนาจ ทางผู้เสียหายจะต้องดำเนินการเองทั้งหมด ซึ่งตอนนี้มีผู้เสียหายไปมอบอำนาจแล้วจำนวนกว่า 1 พันคน
ส่วนการชดใช้ค่าเสียหาย ตามคำพิพากษา ที่จำเลยทั้ง 22 คน จะต้องชดใช้ให้เงินทั้งหมด ภายใน 30 วัน ตั้งแต่พิพากษา แต่หากหลังจากนั้นไม่ดำเนินการ ผู้เสียหายสามารถที่จะส่งคำร้องขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี เพื่อนำสืบทรัพย์สินของจำเลย และนำไปขายทอดตลาดเพื่อนำทรัพย์สินมาคืนผู้เสียหาย โดยไม่ต้องรอว่าทางจำเลยจะอุธรณ์คดีหรือไม่
นอกจากนี้ แม้ว่าศาลจะไม่รับคำร้องท้ายสำนวนที่ไม่ให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินนั้น ทางพล.ต.อ.สุวิระ ระบุว่า ตามกฎหมาย มาตรา 33 วรรค 2 สามารถนำทรัพย์สินคืนผู้เสียหายได้ แต่ทางผู้เสียหายจะต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า ทรัพย์สินของผู้เสียหายไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
สำหรับผู้เสียหายที่ไม่ได้มอบอำนาจให้กับทางทนายชาวบ้าน สามารถที่จะไปเซ็นมอบอำนาจได้ที่ สำนักงานของที่ปรึกษา สบ. 10 หรือ มูลนิธิทนายชาวบ้าน ได้ถึงวันที่ 22 เมษายน และสำหรับผู้เสียหายที่ยังไม่เคยแจ้งความนั้นให้รีบไปแจ้งความกับสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ ที่มีการโอนเงินเพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้พล.ต.อ.สุวิระ ยังยืนยันว่า ผู้เสียหายที่ลงทะเบียนไว้จะได้เงินคืนทั้งหมดภายในปีนี้อย่างแน่นอน