เจอดีอีก! ตร.อาสาโพสต์ขู่ก่อเหตุ แจ้งข้อหาหนักภัยความมั่นคง

2020-02-11 18:00:27

เจอดีอีก! ตร.อาสาโพสต์ขู่ก่อเหตุ แจ้งข้อหาหนักภัยความมั่นคง

Advertisement

เจอคดีอีกคน! ตำรวจอาสา โพสต์ โชว์ปืนปลอมขู่ก่อเหตุ ถูกรวบถึงบ้าน แจ้งข้อหา หนัก พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ภัยความมั่นคง อ้างทำเล่นแค่อยากโชว์

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.พ.ต.อ.สุริยันต์ จินดาวัลย์ ผกก.สภ.ศรีสงคราม มอบหมายให้ พ.ต.ท.สง่า อินทร์สาธร รอง.ผกก.สส.สภ.ศรีสงคราม นำกำลังชุดสืบสวน เข้าไปตรวจสอบ ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน หลังพบข้อมูลมี ชายผู้ต้องสงสัย นำข้อมูลภาพถ่าย แต่งกายคล้ายตำรวจ พร้อมโชว์อาวุธปืน และโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีข้อความว่า “พร้อมเสมอ กับคนที่ทำให้เราผิดหวัง กับคนที่ทำให้เราเสียใจ กับคนที่ทำให้เราปวดใจ เมื่อมันมาถึงจุดจุดหนึ่ง เลือดเท่านั้น ที่มันจะเยียวยาจิตใจของเรา ซึ่งเป็นข้อความที่เข้าข่ายเป็นภัยความมั่นคง และเลียนแบบการก่อเหตุของจ่าทหารคลั่ง ที่ จ.นครราชสีมา โดยใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า “อัครพล อัครวรรณกฤช” เจ้าหน้าที่จึงได้ ตรวจสอบ และสืบสวนขยายผล จนทราบเจ้าของ คือ นายอัครพล อัครวรรณกฤช อายุ 54 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านข่า อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซึ่งมีอาชีพเป็นพ่อค้าขายกับข้าวในตลาด และยังเป็นตำรวจอาสา ช่วยงานตำรวจ การนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน พ.ร.บ.การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้ ควบคุมตัวมาสอบปากคำ โดยทางเจ้าตัว ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาจะก่อเหตุ ทำไปเพื่อสร้างกระแส และคิดสนุก ส่วนอาวุธปืน เป็นอาวุธปืนปลอม และยังมีการตรวจสอบพบชุดตำรวจอาสา เป็นเครื่องแบบชุดฝึกตำรวจ เบื้องต้นทางตำรวจ ได้แจ้งข้อหา การนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ตามมาตรา 14 (2) พ.ร.บ.การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้ อนุญาต ให้มีการประกันตัว รอขั้นตอนการดำเนินคดี ส่งฟ้องศาลต่อไป




ทั้งนี้ ทางตำรวจ ยังได้ฝากเตือนประชาชน หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมชอบโพสต์เฟซบุ๊กเลียนแบบ สร้างกระแส หรือสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน หรือคิดทำเพื่อความสนุกสนาน หากมีการตรวจสอบพบหลักฐาน หรือเข้าข่าย จะมีการจับกุมดำเนินคดีทันที ฝากทำความเข้าใจไปยังประชาชน ซึ่งหากพบกระทำผิดมีโทษทั้งจำทั้งปรับ ถึงขั้นติดคุกได้ ควรงดการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย