ทางการออสเตรเลียสั่งปิดสนามบินชานกรุงแคนเบอร์รา ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากภัยคุกคามจากไฟป่าในบริเวณใกล้เคียง พร้อมกับสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ทางใต้ของเมือง และในวันเดียวกันเกิดเหตุสลด เครื่องบินดับเพลิงไฟป่าตก ทำให้นักดับเพลิงชาวอเมริกัน 3 คนเสียชีวิต
ไฟเริ่มลุกไหม้เมื่อวันพุธ แต่กระแสลมแรงและอุณหภูมิสูง ทำให้สถานการณ์ในกรุงแคนเบอร์ราเลวร้ายลง ไฟป่าจุดที่ 2 บริเวณใกล้สนามบิน เริ่มลุกไหม้เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี อยู่ในระดับ "เฝ้าระวังและสกัดไฟ"
เจ้าหน้าที่สนามบินแคนเบอร์รา ประกาศทางทวิตเตอร์ ว่า ผู้บริหารตัดสินใจสั่งปิดสนามบิน ทั้งอาคารผู้โดยสารขาเข้าและขาออก เพื่อเปิดทางสำหรับปฏิบัติการดับเพลิง ส่วนทวิตเตอร์ของสำนักงานตำรวจจราจรแคนเบอร์รา กล่าวว่า ไฟป่าไหม้ลามรวดเร็ว และมีการปิดถนนหลายสายในพื้นที่ พร้อมกับแจ้งให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางสัญจรผ่านพื้นที่
ทางด้านนายแองกัส แคมป์เบลล์ รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย กล่าวว่า ทางการสั่งอพยพประชาชนออกจากบ้านเรือน ในพื้นที่เสี่ยงภัยไฟป่า แถบชานเมืองฝั่งทางใต้ของกรุงแคนเบอร์รา กระทรวงกลาโหมสั่งการไปยังกองทัพ ให้ส่งทหารเข้าเหลือทั้งการอพยพประชาชน และการสกัดไฟป่า
วันพฤหัสบดี เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินขนส่งลำเลียงกองทัพรุ่น เฮอร์คิวลีส ซี-130 ที่ดัดแปลงเป็นเครื่องบินดับเพลิง แบบทิ้งระเบิดน้ำจากทางอากาศ ตกลงในเทือกเขาสโนวี่ ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ขณะออกปฏิบัติการดับไฟป่า เป็นเหตุให้นักดับเพลิงชาวอเมริกันที่อยู่บนเครื่อง เสียชีวิต 3 คน โดยผู้ที่เห็นเหตุการณ์เผยว่า เครื่องบินตกกระแทกพื้นรุนแรง จนระเบิดลุกเป็นไฟ
นายเชน ฟิตซิมมอนส์ หัวหน้าสำนักงานดับเพลิงชนบทรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก แต่ในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี สภาพอากาศในพื้นที่มีกระแสลงแรงจัด ทำให้การทำงานของเครื่องบินดับเพลิง "ยากลำบากมาก"
ความสูญเสียล่าสุดทำให้จำนวนผู้เสียชีวิต จากวิกฤตไฟป่าในออสเตรเลีย ที่เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย.ปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 32 ศพ
ขณะเดียวกัน ก็เกิดพายุฝุ่นสีน้ำตาลเข้มหนาทึบอีกครั้งในหลายพื้นที่ของรัฐนิวเซาท์เวลส์เมื่อวันพฤหัสบดี เพียงหนึ่งวันหลังพายุฝุ่นลูกใหญ่ถล่มเมลเบิร์น จนทำให้เมืองทั้งเมืองกลายเป็นสีน้ำตาล แดนนี บัสช์ ผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายภาพพายุฝุ่นที่กำลังพัดตลบอบอวลไปทั่วนถนนหลวงมิทเชล ไฮเวย์ ในเมืองนีนแกน ภาคกลางของรัฐนิวเซาท์เวลส์
เขากล่าวว่า ฝุ่นหนาทึบและดูเหมือนว่าจะพัดปลิวไปปกคลุมทางตะวันออก ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของนิวเซาท์เวลส์ ยืนยันผ่านทางทวิตเตอร์ว่า พายุฝุ่นเดินทางถึงซิดนีย์แล้ว ซึ่งทำให้ทัศนวิสัยลดต่ำลง